ฟังรายการสถานีวิทยุศึกษา FM 92 MHz.



ครอบครัวข่าวสาร





มาร่วมคุยกันดีกว่า

๒๔/๑๒/๕๐

กรุงเทพฯ จัดงานนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ ณ ท้องสนามหลวง



ปีใหม่ 2551 ใกล้มาถึงแล้ว กรุงเทพมหานคร เตรียมจัดงาน วันปีใหม่ ครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งปีนี้จะจัด เคานต์ดาวน์ ปีใหม่ ที่สนามหลวง สำหรับประชาชนที่สนใจ ท่องเที่ยว ปีใหม่ ขอเชิญไปชมได้ 30 ธ.ค. 50 -1 ม.ค.51 นี้

วันที่ 12 ธ.ค. ที่ศาลาว่าการ กทม. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยถึงการจัดงานปีใหม่ของ กทม. ว่า ในเทศกาลปีใหม่ปี 51 กทม. กำหนดจัดงานฉลองตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 50 -1 ม.ค.51 โดยจะจัดงานขึ้นเพียงแห่งเดียว ที่บริเวณท้องสนามหลวงเท่านั้น และจะไม่มีเวทีจัดนับถอยหลังในจุดใดอีก แต่ในส่วนของเอกชนก็จะมีการจัดงานในหลายจุด

ทั้งนี้กำหนดการของกทม.นั้น คือ วันที่ 30 ธ.ค.จะอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตร พระประจำกทม.มาประดิษฐานที่สนามหลวง ให้ประชาชนได้สักการบูชา วันที่ 31 ธ.ค. จัดงานฉลองตั้งแต่เวลา 17.00 - 24.00 น. ซึ่งจะมีกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม เช่น ฉายหนังกลางแปลง การแสดงศิลปะจาก 4 ภาค ดนตรีลูกทุ่ง เป็นต้นและวันที่ 1 ม.ค.51 จะตักบาตรพระสงฆ์ นอกจากนี้กทม.จะเปิดไฟประดับตลอดแนวถนนราชดำเนิน ตั้งแต่บริเวณท้องสนามหลวงถึงพระบรมรูปทรงม้าให้ชมอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.50-1 ม.ค.51 โดยจะอำนวยความสะดวกด้วยการจัดให้บริการรถราง และรถ 2 ชั้น 7 คันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้บริการประชาชนในการชมไฟด้วย ทั้งนี้การจัดงานในปีนี้จะใช้งบประมาณ 1 ล้านบาท

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ และ www.kapook.com

๑๙/๑๒/๕๐

ส.ค.ส. สภากาชาดไทย


ส.ค.ส. สภากาชาดไทยเนื่องในโอกาสเทศกาลขึ้นปีใหม่ สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย อัญเชิญพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกา ผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ที่โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้สภากาชาดไทย เพื่อนำมาจัดพิมพ์เป็นส.ค.ส.กาชาด ประจำปี 2551 และจำหน่ายนำเงินรายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย นอกจากนี้ยังจัดพิมพ์บัตรอวยพรอเนกประสงค์ ในชุด ดอกไม้บาน มี 4 ภาพ ประกอบด้วย ภาพหางนกยูงทอง ภาพกันภัยมหิดล ภาพสร้อยอินทนิล และภาพหิรัญญิการ์ จำหน่ายใบละ 9 บาท สำหรับชุดพิเศษ ราคาชุดละ 100 บาท รายได้จากการจำหน่ายสมทบการดำเนินภารกิจสภากาชาดไทยนำไปช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสในสังคม

สอบถามและสั่งจอง โทร. 0-2256-4441, 0-2251-1218 และ 0-2256-4623


ศิลปินตลาดนัดศิลปะ ร่วมงาน “Pattaya Music and Art Performance 2007”



อีกกิจกรรมดีๆ ต้อนรับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยการแสดงงานศิลปะและ
ดนตรีรูปแบบใหม่ในงาน
“Pattaya Music and Art Performance 2007” ณ โรงละครอลังการ พัทยา จังหวัดชลบุรี

เมืองพัทยาร่วมกับสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และโรงละครอลังการ กำหนดจัดงาน “Pattaya Music and Art Performance 2007” ขึ้น ระหว่างวันที่ 21 23 ธันวาคม 2550 ณ โรงละครอลังการ พัทยา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ศิลปินรุ่นใหม่ได้มีพื้นที่แสดงผลงานศิลปะที่ตนเองได้สร้างสรรค์ขึ้น นำเสนอแก่สาธารณชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศอีกทั้งยังเป็นการขยายเครือข่ายศิลปินร่วมสมัยสาขาต่าง ๆ ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ด้วย

นอกจากจะได้ชมผลงานดนตรีที่เน้นความหลากหลายในรูปแบบการนำเสนอให้สมกับการเป็นเมือง “City of Entertainmentแล้วยังได้ชมผลงานศิลปะชั้นเยี่ยมในสาขาทัศนศิลป์ อาทิ งานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ โดยศิลปินมืออาชีพจากชมรมศิลปิน ตลาดนัดศิลปะ (Art Market) และศิลปินรุ่นใหม่ จากน้องๆ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยบูรพา และวิทยาลัยเพราะช่างด้วยในงานจะได้ชมการแสดงน้ำพุประกอบดนตรีที่ยิ่งใหญ่อลังการ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งศิลปะเพื่อความสุข พบกันในงาน “Pattaya Music and Art Performance 2007

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-2422-8828-9

๑๒/๑๒/๕๐

เชิญเที่ยวงาน “คนไทย หัวใจเกษตร”



ครั้งแรกกับงานเกษตรยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี ที่จัดโดย 3 องค์กรหลัก ทีไอทีวี สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และ กันตนา มูฟวี่ ทาวน์ ในชื่อ “คนไทย หัวใจเกษตร”

ในปีนี้ ให้ชื่อว่า “คนไทย หัวใจเกษตร เทิดไท้องค์ราชันย์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสทรงพระเจริญพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา โดยงานจะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 14 – 16 ธันวาคม 2550 ณ กันตนา มูฟวี่ ทาวน์ อ.ศาลายา จ. นครปฐม

ถ้าคุณเป็นคนไทยด้วยกัน ต้องไม่พลาด “คนไทย หัวใจเกษตร” งานเกษตรยิ่งใหญ่ที่รวบรวมสินค้าดีๆ ของคนไทย จากทั่วทุกภูมิภาคมาไว้ในที่เดียวกัน ทั้งพืชพันธ์ผลไม้ ผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน และศิลปวัฒนธรรม สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ในรูปแบบตลาดน้ำจำลองที่หาชมได้ยาก สนุกกับกิจกรรมบันเทิงหรรษาตลอดงาน ตื่นตาตื่นใจกับพรรณไม้งาม อร่ามตาในสวนพื้นที่กว่า 800 ไร่ ที่เนรมิตขึ้นเป็นพิเศษ พิเศษกับสินค้าโอทอปและ ผลิตภัณฑ์จากศูนย์ศิลปชีพ ที่คัดสรรมาให้เลือกซื้อเลือกหาได้อย่างจุใจ

กิจกรรมในงานที่น่าสนใจ

- นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ
- สวนเกษตรพอเพียง
- ศูนย์ศิลปาชีพ
- การประกวดกล้วยไม้สวยงาม
- สวนพรรณไม้งาม 800 ไร่
- การแสดงสัตว์แสนรู้
- ตลาดน้ำวิถีไทย
- หมู่บ้านสปา
- เวทีกิจกรรมความบันเทิง
- การแสดงสุดยอดข้าวพันธุ์ดี
- จำหน่ายสินค้าหลากหลายผลิตภัณฑ์
- และอื่นๆ อีกมากมาย

ติดต่อจองบูทเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคนไทย หัวใจเกษตร ได้ที่ โทร 02-691-6927
“ภูมิใจในความเป็นไทย ภูมิใจในคนไทย หัวใจเกษตร”

๑๙/๑๑/๕๐

เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ครั้งที่ 3

รายการครอบครัวคุยกันขอเชิญชวนน้องๆ และผู้ปกครอง รวมถึงผู้ที่สนใจร่วมชมภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ครั้งที่ 3
ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-23 พฤศจิกายน 2550


สถานที่จัดฉาย

>> ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลอง)

>> องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย (คลองห้า)

>> พิพิธภัณฑ์เด็ก กรุงเทพมหานคร สวนจตุจักร ถ.กำแพงเพชร 4

>> อุทยานการเรียนรู้ (TK Park) เซ็นทรัลเวิลด์




โดยมี 5 ประเภทของภาพยนตร์ที่น่าสนใจ
1. ภาพยนตร์สาระบันเทิง
2. ภาพยนตร์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
3. ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์การแพทย์
4. ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ทั่วไปและเทคโนโลยี
5. ภาพยนตร์วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์


สามารถตรวจสอบรอบฉายและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

๑๒/๑๑/๕๐

บรรยากาศงานสัมมนาเครือข่ายวิทยุเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว

ากจุดประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของเครือข่ายรายการวิทยุเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ทางเครือข่ายจึงได้จัดงานสัมมนา เพื่อวางยุทธศาสตร์และคิดหาวิธีใหม่ๆ ในการเพิ่มสัดส่วนและปรับปรุงรายการประเภทเพื่อเยาวชนและครอบครัว ให้มีความสนใจ น่าติดตาม และคงอยู่บนหน้าปัดวิทยุได้อย่างมั่นคง ซึ่งได้รับความร่วมแรงร่วมใจกันจากบุคลากรที่เกี่ยวข้องมากมาย ทำให้บรรลุผลสำเร็จที่ผู้จัดงานตั้งใจไว้ รวมถึงได้แนวทางของเครือข่ายที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

คลิ๊กเพื่อขยาย

กว่าจะมาเป็นเครือข่ายรายการวิทยุเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว
เครือข่ายรายการวิทยุเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว เกิดจากการรวมตัวกันอย่างหลวม ๆ ของนักจัดรายการวิทยุที่เห็นความสำคัญของช่องทางในการนำเสนอสื่อสร้างสรรค์ที่หลากหลาย ในรูปแบบของเครือข่ายผ่านกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์ซึ่งกันและกัน โดยมีปณิธานว่า “ เราจะผลักดันให้มีการเพิ่มสัดส่วนรายการวิทยุสำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว” ตลอดจนมีเนื้อหาสาระส่งเสริมพัฒนาความรู้เพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว หมุนคลื่นมาฟังรายการวิทยุดี ๆ เพื่อเด็ก เยาวชน และครอบครัว กันเถอะ.......

คลิ๊กเพื่อขยาย

บรรยากาศงานมหกรรมสื่อสร้างสุข ณ กรมสุขภาพจิต

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดงานเปิดบ้านสร้างสุขให้คนไทย โดยย้ำเน้นในเรื่องการเสพสื่ออย่างไรให้มีความสุข ในงานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๐ โดยมีชื่องานว่า“มหกรรมสื่อสร้างสุข” ระหว่างวันที่ ๓๑ ตุลาคม –๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ ณ กรมสุขภาพจิต ซึ่งภายในงานมีการจำลองการจัดรายการวิทยุเพื่อเด็กและครอบครัว โดยรายการครอบครัวคุยกัน และโลมา..ลั้นลา ก็ได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับจากหน่วยงานและประชาชนทั่วไปเป็นอย่างดี

คลิ๊กที่รูปเพื่อขยาย


๒๐/๑๐/๕๐

โอกาสในการประกาศเกียรติคุณครูดนตรี

เพราะครู..หนูจึงมีวันนี้
เพราะครู..ผมจึงกลายเป็นนักดนตรีชั้นยอด

ยังจำได้ไหมถึงครูดนตรีที่พร่ำสอนโดยไม่หวงวิชา อดทนเหนื่อยยากจนกระทั่งคุณได้นำวิชาการที่ครูสอนมาประกอบอาชีพได้จนทุกวันนี้
หรือ ถึงแม้ว่าที่สุดแล้ว คุณจะไม่ได้เป็นนักดนตรีก็ตาม แต่ประสบการณ์การเรียนดนตรี
กับครูดนตรีในดวงใจนั้น ก็ยังประทับใจอยู่ิมิรู้วาย


สมาคมครูดนตรีไทย (ประเทศไทย) ขอทำหน้าที่ยกย่อง เชิดชูเกียรติครูดนตรีดีเด่น โดยขอเชิญทุกท่านเขียนเล่าประสบการณ์จริงในหัวข้อ "ครูดนตรีในดวงใจ" ของท่าน ที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อนำไปคัดเลือกรับรางวัลจากสมาคมครูดนตรี โดยเขียนบทความสั้นๆ
ประมาณ 1-2 หน้ากระดาษ A4 บอกเล่าความประทับใจในการสอนของครูดนตรีที่
เคยเรียนด้วยในระดับใดก็ได้ (ประถมฯ, มัธยมฯ, อุดมศึกษา หรือเป็นการเรียนที่สถาบัน
พิเศษใดๆ ก็ได้) เล่าให้ฟังถึงเทคนิค วิธีการสอนของครู สิ่งที่ทำให้ประทับใจจนถึงทุก
วันนี้ โดยที่ จะต้องเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ผู้เขียนเรื่องเล่าที่ได้รับการคัดเลือกจะได้
รับรางวัล 2,000 บาท ครูดนตรีที่ท่านอ้างถึงจะได้รางวัล 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
ผู้สนใจ ส่งเรื่องเล่าได้ที่


สมาคมครูดนตรี (ประเทศไทย) ห้อง 206 (รศ.อรวรรณ บรรจงศิลป)
วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล 25/25 ถ.พุทธมณฑล สาย 4 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170 โทรศัพท์ 02-800-2525 ต่อ 157,219 หรือส่งทางอีเมล์ได้ที่ krudontri@gmail.com หรือ krudontri@yahoo.com



หมายเหตุ
1. โปรดแจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของท่าน และชื่อ ที่ีอยู่ เบอร์โทรศัพท์ครูของท่านด้วย เพื่อการติดต่อ
2. หมดเขต 31 ตุลาคม 2550

๑๒/๑๐/๕๐

งานสัมมนาดีๆ สำหรับครอบครัว


งานประชุมวิศวกรรมแห่งชาติ 2550 หรือ National Engineering Conference 2007

วันที่ 11 - 13 ตุลาคม 2550 ณ ศูนย์การประชุมไบเทคบางนา

เป็นงานที่จัดเป็นประจำทุก 2 ปี โดยความร่วมมือของ 5 สมาคมคือ

วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท)

สมาคมวิศวกรออกแบบและปรึกษาเครื่องกลและไฟฟ้าไทย (MECT)

สมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครื่องกลไทย (TEMCA)

สมาคมวิศวกรรมปรับอากาศแห่งประเทศไทย (ACAT)

สมาคมไฟฟ้าและแสงสว่างแห่งประเทศไทย (TIEA)

นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสมาคมวิชาชีพอื่น องค์กรภาครัฐ และสถาบันการศึกษา


การจัดงานในปีนี้มีเป้าหมายให้เป็นการประชุมเพื่อนำเสนอผลงานที่แสดงถึงศักยภาพของวิศวกรไทย
มีลักษณะเป็นการนำเสนอเรื่องราวของความสำเร็จของโครงการที่ดำเนินการโดยวิศวกรไทย
บริษัทวิศวกรของไทยและบริษัทวิศวกรรมที่ดำเนินกิจการอยู่ในประเทศไทยรวมทั้งบริษัทที่
เป็นนิติบุคคลที่เป็นสมาชิกของสภาวิศวกร โดยความร่วมมือของประธานวิชาการสาขาต่างๆ

ของวสท.และสมาคมวิชาชีพที่ร่วมจัดงานการประชุมยังประกอบด้วยการประชุมทางด้าน
มาตรฐานงานวิศวกรรม และการนำเสนอบทความที่เป็นนวัตกรรม และความก้าวหน้าทาง
ด้านวิศวกรรม พร้อมทั้งการแสดงทางด้านเทคโนโลยี
และนวัตกรรมในงานวิศวกรรมทุกสาขา การประกวดผลงานของนักศึกษา และเวทีคลีนิคช่างซึ่งประชาชนให้ความสนใจและมาขอ
คำปรึกษาเป็นจำนวนมากในครั้งที่ผ่านมา

อนึ่ง ในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯจะมีพระชนม์พรรษาครบ 80 ปี จะได้นำเสนอ
พระกรณียกิจทางช่างของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯด้วย งานครั้งที่ผ่านมา ได้รับ
พระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ในการทรงเสด็จมาเปิดงานและจะได้
กราบบังคมทูลเชิญเพื่อให้ทรงเสด็จมาเปิดงานในปีนี้ต่อไป

จุดเด่นที่สำคัญในงาน นอกจากการชุมนุมการประชุมของหน่วยงานต่างๆประจำปี

  • การแสดงทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ในงานวิศวกรรมทุกสาขา
  • การนำเสนอผลงานทางด้านวิศวกรรมในโครงการระดับชาติ
ซึ่งงานสัปดาห์วิศวกรรมแห่งชาตินับว่าเป็นเวทีเดียวที่หน่วยงานต่างๆจะสามารถนำเสนอ
ผลงานด้วยเนื้อแท้ของโครงการที่เป็นงานวิศวกรรมทำให้
ประชาชนและสังคมวิศวกรรม
รับรู้และเข้าใจถึงประโยชน์ที่จะได้รับและผลกระทบบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง
และทำให้ได้
รับข้อมูลที่ถูกต้อง ตรงไปตรงมา

๑๑/๑๐/๕๐

บทความดีๆ เพื่อชีวิต

คลิ๊กเพื่อขยาย

๒๘/๙/๕๐

เขตดุสิตปลื้มจัดงานเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
ประชาชนให้ความสนใจเข้าชมงานวันละ 10,000 คน


หลังจากที่รายการครอบครัวคุยกันได้ประชาสัมพันธ์เรื่อง “เทิดไท้ ๘๐ พรรษา ย้อนอดีตวิถีพระอาราม สยามสมัย” ณ วัดเบญจมบพิตร ตั้งแต่วันที่ 14 – 15 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษา และเป็นการร่วมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ที่พระองค์ทรงสถาปนาวัดเบญจมบพิตร ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ การแสดงแสงสีเสียง ย้อนรอยจากรัชกาลที่ 5 จนถึงปัจจุบัน การแสดงมหรสพแบบไทยในอดีต อาทิ ละครรำ เรื่อง เงาะป่า หุ่นกระบอกออกตัว, ละครร้องเรื่องสาวเครือฟ้า และ โขนสยาม และ กิจกรรมการสาธิตงานฝีมือเอกลักษณ์ไทย

ทั้งนี้นายยุทธศักดิ์ ร่มฉัตรทอง ผู้อำนวยการเขตดุสิต เปิดเผยว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะมีประชาชนสนใจเข้าชมงานวันละ 10,000 คน และสิ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานมากที่สุดคือพระที่นั่งทรงผนวช พระที่นั่งทรงธรรม ที่มีการแสดงสิ่งของที่รัชกาลที่ 5 ทรงใช้เมื่อครั้งยังทรงพระผนวช และพระบรมฉายาลักษณ์ในพระอาริยบถต่างๆ ซึ่งสถานที่ดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่ทางวัดเบญจมบพิตรเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม

๒๑/๙/๕๐

10 วิธีช่วยระงับความโกรธ

ความโกรธถือเป็นสิ่งที่ไม่เป็นผลดีต่อการดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่น การระงับความโกรธจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรจัดการให้หายไปอย่างรวดเร็ว วันนี้ทีมงานจึงรวบรวมวิธีระงับความโกรธมาฝากกัน ดังนี้
1.รู้เท่าทันว่าตัวเองกำลังจะโกรธ
2.เตือนตัวเองว่าโกรธ คือ การเผาและทำลายสุขภาพตัวเอง
3.นับ1-10เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ หายใจเข้า-ออกลึกๆ ช้าๆ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
4.ออกจากพื้นที่ที่ทำให้โกรธ
5.คิดไว้ว่าไม่สามารถควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปได้ดังใจเรา
6.มองว่าคนเราแตกต่างกัน ไม่มีใครสมบูรณ์แบบแม้แต่ตัวเรา
7.มองข้อดีของคนอื่น และนึกถึงความดีของเขาในอดีต
8.มองด้านบวก
9.ให้อภัยและปล่อยวาง
10.ถ้าแก้ไม่ได้ ให้ปรึกษาจากผู้มีประสบการณ์ หรือถ้ารุนแรงมากควรปรึกษาจิตแพทย์

ลองปฏิบัติดูหากทำให้จะทำให้การดำเนินชีวิตของเรามีความสุขมากขึ้นค่ะ

๑๘/๙/๕๐

คุณครูสู้ชีวิต

คุณครูสุวิมล ฟองแก้ว คุณครูสู้ชีวิต ชาวเมืองรถม้า จ.ลำปาง คุณครูสอนคอมพิวเตอร์โรงเรียนวัดถ้ำปลาวิทยาคม ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย แต่ที่แปลกไปกว่าคุณครูคนอื่นโดยทั่วไปก็เพราะคุณครูไม่มีแขน แต่ว่าสามารถทำการสอนได้อย่างที่คนปกติจะต้องทึ่งในความสามารถ


คุณครูเล่าว่าที่มาทำงานอยู่ ณ จุดนี้ก็เพราะอยากจะเป็นครูตั้งแต่เด็ก แต่ว่าร่างกายไม่สมประกอบ ไม่มีแขนทั้ง 2 ข้างมาตั้งแต่กำเนิด แต่คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงก็ไม่ได้เลี้ยงคุณครูมาแบบคนพิการ กลับเลี้ยงมาแบบคนปกติทุกอย่าง ในวัยเด็ก คุณครูต้องทำงานบ้าน ซักผ้า รีดผ้า ตามปกติเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ในวัยเดียวกัน โดยฝ่ายคุณพ่อคุณแม่ก็จะให้อิสระในความคิด อยากเรียนอะไรถ้าสามารถเรียนได้ก็สนับสนุนให้เรียน ไม่เคยห้ามปราม ดังนั้นอะไรที่คนอื่นทำได้ คุณครูก็ทำได้ นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ยังจะหาเงินมาสนับสนุนทางด้านการศึกษาเป็นอย่างดี


ตอนเด็กๆ ถ้าคุณครูเขียนหนังสือจะใช้เท้าเขียน แต่หลังจากโตขึ้นก็เริ่มฝึกเขียนหนังสือโดยใช้แขนเทียม และสามารถเขียนหนังสือได้เหมือนๆ กับเด็กทั่วไป ที่โรงเรียนคุณครูจะใช้วิธีนั่งเรียนทฤษฎีที่โรงเรียน และไปฝึกภาคปฏิบัติกับคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ทำให้ไม่มีปัญหากับการเรียนแต่อย่างใด คุณครูเลือกเรียนคอมพิวเตอร์ศึกษาซึ่งเป็นด้านของการสอนคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ โดยแรงบันดาลใจในด้านนี้เป็นเพราะคุณครูไม่สามารถจับชอร์คเขียนหนังสือได้ จึงหันมาใช้ปากกาไวท์บอร์ดซึ่งจะมีใช้เฉพาะห้องคอมพิวเตอร์ อีกทั้งวิชา
คอมพิวเตอร์ ถ้าไม่ได้นำไปสอนก็สามารถใช้ประกอบอาชีพอย่างอื่นได้


คุณครูอยากเป็นครูเพราะในวัยเด็กเจอแต่คุณครูที่ดีๆ ที่ให้แต่สิ่งดีๆ ตัวคุณครูเองจึงอยากในความรู้มาให้กับคนอื่นๆ บ้าง และมุ่งมั่นมาตลอด หลังจากเรียนจบจึงสอบบรรจุมาเป็นครู ปัจจุบันนี้ก็ได้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้โดยคุณครูผู้ช่วยมาแล้ว 10 เดือนเพื่อรอการบรรจุ


ในการสอนชั่วโมงแรกๆ นักเรียนและเพื่อนครูก็มักจะมองว่าคุณครูจะสอนอย่างไร การที่ไม่มีมือนั้นจะคลิกเม้าท์อย่างไร แต่ลูกศิษย์เองก็ไม่กล้ามาคุยมาถามมากนัก แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องอธิบายกับสิ่งที่เป็นปมด้อยนั้น คุณครูก็ไม่โกรธ โดยนึกว่าเป็นการไขข้อข้องใจให้กับผู้ถาม แต่หลังจากที่เรียนรู้กันไปก็ยอมรับถึงความสามารถของคุณครูในที่สุดบ้านของครูอยู่ที่ลำปาง โดยอยู่บ้านพักครูที่ จ.เชียงราย โดยปัจจุบันคุณครูได้รับมอบหน้าที่ให้เป็นผู้ดูแลเวปไซด์ของโรงเรียนอีกด้วย

สิ่งที่คุณครูอยากถ่ายทอดไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองสมัยนี้ก็คือ ความรักที่ให้กับลูกโดยการสอนให้ลูกได้ทำงาน, กิจวัตรประจำวันเอง โดยช่วยลูกให้น้อยที่สุด เพื่อให้ลูกได้ฝึกใช้ทักษะด้วยตัวเอง ซึ่งตัวพ่อแม่ก็ควรจะมีความคิดที่กว้าง ถ้าลูกอยากทำอะไร อยากเป็นอะไรที่สามารถจะทำได้ ก็ควรจะส่งเสริมให้ถึงที่สุด

ส่วนในด้านความพิการนั้น คุณครูมองว่า การที่คนปกติทำงานได้ คนพิการได้เช่นกัน และผลงานที่ออกมานั้นอาจจะเท่ากันหรือดีกว่า เพราะต้องใช้ความตั้งใจมากกว่า และบางเรื่องที่คุณครูคิดว่าได้เปรียบคนปกติก็คือความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจก็เข้มแข็ง เมื่อเจอปัญหาก็สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง สามารถยิ้มกับทุกปัญหามันได้ และคิดว่าคงไม่มีปัญหาที่แย่กว่านี้อีกแล้ว


สิ่งที่อยากฝากถึงพ่อแม่ว่า "การรักลูกเป็นสิ่งที่ดี แต่การแสดงความรักนั้นก็ต้องแสดงให้ถูกวิธี ไม่ประคบประหงมลูกจนเกินไป เพราะเราไม่สามารถเลี้ยงเขาได้ตลอดไป ให้เขาได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ให้เฝ้าดูอย่างห่างๆ และช่วยในสิ่งที่จำเป็นก็เพียงพอแล้ว ส่วนลูกๆ และเด็กๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ก็ขอให้ตั้งใจเรียน เพราะถือว่าเป็นโอกาส อนาคตเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น การเริ่มต้นอนาคตที่ดีนั้นดีกว่าจะไปแก้ปัญหาในอนาคต"

ส่วนใครอยากแบ่งปันน้ำใจ ก็สามารถส่งไปได้ที่โรงเรียนวัดถ้ำปลาวิทยาคม ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย หรือผ่านรายการได้ที่ ตู้ปณ.72 ปณฝ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 12150

๑๗/๙/๕๐

โครงการ “Youth Day ทำดีไร้ยางอาย”

โครงการ “Youth Day ทำดีไร้ยางอาย”
จัดขึ้นในวันเยาวชนแห่งชาติ พฤหัสบดีที่ 20 กันยายน 2550 ณ เซ็นเตอร์พอยท์ สยามสแควร์ ตั้งแต่เวลา 16.30- 20.30 น. โดยจะมีกิจกรรมหลักคือ


1. กิจกรรมทำดี…ไร้ยางอาย เวลา 16.30น.-18.00น. เพื่อพัฒนาเยาวชนให้มีจิตอาสา เราจะมาพัฒนาสยามสแควร์ ร่วมกันลดภาวะโลกร้อน และทำความสะอาดพัฒนาบริเวณรอบๆ สยามสแควร์ เช่น การเก็บขยะ การแยกขยะให้ถูกประเภท และการรดน้ำต้นไม้ เป็นต้น และร่วมกันเปลี่ยน “ต้นขยะยักษ์” ให้เป็น “ต้นไม้แห่งความดี” ที่เต็มไปด้วยปณิธานทำความดีจากเยาวชน โดยการนำใบไม้ที่เขียนคำปณิธานไปติดแทนที่ขยะแต่ละชิ้น
2. If U were the –EST. เวลา 18.00น.-19.30น. เสวนาพาเพลิน “หากคุณคือ...ที่สุด คุณจะทำอะไรให้ประเทศไทยดีขึ้น” พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของเยาวชนคนเก่งยุคใหม่ เกี่ยวกับมุมมองในการพัฒนาประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้นไป เช่น “หากคุณรวยที่สุด คุณจะทำอะไรให้ประเทศไทยดีขึ้น” โดยผู้เข้าร่วมการเสวนาจะเป็นเยาวชนที่มีความเก่งในแต่ละด้าน ได้แก่ นายแบ๊งค์ งามอรุณโชติ นิสิตจุฬาฯ นักการศึกษารุ่นเยาว์ นางสาวชนิภาดา สงวนพวก Miss University International 2007นางสาววินดา ยอดพินิจ ประธานคณะกรรมการนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และนายธนธรณ์ ทวีวัฒนา นักเรียนโอลิมปิกวิชาการจากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
3. ReYOUTH-ผู้ใหญ่ในวันนี้ คือ เยาวชนที่ดีในอดีต เวลา 19.30น.-20.00น. คัดเลือกและมอบรางวัลให้แก่ผู้ใหญ่ที่มีความสมบูรณ์พร้อมทั้งความเก่ง ความดี และมีจิตอาสา โดยมีผลงานที่มีการรับรู้ในเชิงกว้าง เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่เยาวชน ซึ่งได้แก่ พระมหาสมปอง นครไทสง วิทยากรธรรมDelivery คุณบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิด นายแพทย์พงศักดิ์ ตั้งคณา วิทยากรพระคุณแม่ชื่อดัง คุณแทนคุณ จิตต์อิสระ นักแสดงและพิธีกรต้นแบบ และทีมงานTVบูรพา ทีมสร้างสรรค์รายการสร้างสรรค์สังคม
4. รักพ่อ…ทำดีเพื่อแผ่นดิน เวลา 20.00น.-20.30น. เพื่อนำความดีที่เยาวชนร่วมกันทำในวันนี้ที่จะตั้งใจทำต่อไปภายภาคหน้า ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจเยาวชนไทยทั้งชาติ
5. Shopping BOON market เวลา 16.30น.-20.30น.เปิดพื้นที่บริเวณลานน้ำพุ เซ็นเตอร์พอยท์ ให้กลุ่มเยาวชนและองค์กรการกุศล จำหน่ายสินค้า เพื่อนำรายได้ไปใช้ในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมต่อไป


ข้อคิดดี ๆ กับคำว่าพอของคุณนิรุตติ์ ศิริจรรยา

กับคำว่า“พอ” จุดเริ่มต้นของความสุข ผมคิดว่าอยู่ที่ การค้นหาตัวเองให้พบไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนใกล้ตายยังไม่รู้ว่าตัวเองต้อง การอะไร เพราะติดอยู่กับความหลง หรือติดอยู่กับกระแส อะไรก็ตาม ผมก็เช่นกันเคยถูกชักจูงจากสังคม จากเพื่อนให้ไปทำงานหลายๆ อย่าง แต่ไม่ว่าทำ งานอะไรก็ตาม ต้องทำด้วยความชอบ จึงจะประสบความสำเร็จ และต้องรับผิดชอบต่องานให้ดีที่สุดเท่าที่จะ ทำได้ ขณะเดียวกันไม่มีงานไหนราบรื่น ไม่มีหรอกที่ตัวเราจะไม่เครียด หรือไม่มีความทุกข์ หรือไม่หงุดหงิด อยู่ที่ว่าแก้ไขให้ดีขึ้นได้ไหม ถึงจะ ไม่ได้ทั้งหมด แต่อย่าเลวลงก็เท่านั้นเอง นั่นคือการดำรง ชีวิตอยู่

จนเมื่อผมเข้าสู่วงการภาพยนตร์ ได้ไปถ่ายหนัง ตามสถานที่ต่างๆ จึงค้นพบว่าจริงๆ แล้วตัวเองชอบทำ งานอิสระและไม่จำเจ ไม่มีเวลาทำงานตายตัว และไม่เครียด ทุกคนในกองถ่ายเป็นเพื่อนกัน หมด ตั้งแต่นั้นผมก็ติดอยู่กับงานแสดงมาตลอด ซึ่งไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ตามเราต้องทำตัวให้อยู่ได้นานที่สุดเท่าที่จะนาน ได้ ไม่ใช่อยู่ได้ด้วยการเอาตัวรอด เพราะการ เอาตัวรอดไม่ใช่วิถีทางที่ถูกต้องกับทุกอย่าง แต่ด้วยการรักษา และเคารพมารยาทในการอยู่ร่วม สังคมการทำงาน กับเพื่อนร่วมงานไม่แบ่งชั้น วรรณะ ทุกคนมีความสำคัญในการทำงานเหมือนๆ กัน เพียงแต่รับผิดชอบหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง รวมทั้งการจัดระเบียบวินัยให้กับชีวิต ไม่ใช่ รับผิดชอบในการทำงานดี แต่ไม่ดูแลตัวเอง ในเมื่อพ่อแม่ให้ ร่างกายมา ครบ32 ประการ ก็เป็นหน้าที่ที่เราต้องมีวินัยในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องสวย หล่อ หรือต้องใส่แบรนด์เนม เพียงแค่ดูแลร่างกายให้สะอาด อยู่เสมอ ต่อให้ใส่อะไรก็ดูดีทั้งนั้น คนที่ทำงานหนักต้องพักผ่อนบ้าง ไม่ใช่ทำงานจนสลบคาโต๊ะ คาเก้าอี้ หรือรอ ให้ป่วยก่อนแล้วค่อยไปหาหมอ ขณะที่รถป้ายแดงกลับหมั่นเช็ดถูจนสี ถลอก ทำไมจึงห่วงรถมากกว่าตัวเอง เหมือนกับ ชีวิตได้มาฟรีก็เลยไม่ดูแล ขอให้คิดสักนิดว่าชีวิตคนยืนยาวกว่าของใช้ เยอะ

ณ วันนี้ผมมาถึงจุดที่ตัวเองเพียงพอแล้ว ได้ทำงานที่ชอบและได้มีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ตัวเองรัก เสร็จงานกลับบ้านสวนที่จันทบุรี อยู่กับ ความเรียบง่ายของธรรมชาติอยู่กับการปลดปล่อย ไม่บังคับตัวเองว่าจะต้องกินอาหารเมื่อ ไร นอนหรือตื่นเมื่อไร ผมกินอาหารวันละมื้อมา 8 ปี จะกินก็ต่อเมื่อหิว และกินแค่พออิ่ม ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ การพักผ่อนที่ดีที่สุดคือ นอนหลับ และจะตื่นเมื่อร่างกายต้องการ ไม่ได้บังคับว่าต้องตื่นเพื่อ อะไร เพราะอะไรก็ไม่หนีเราไปไหน ต้นไม้ยังรอ บ้าน ก็ยังรอเราอยู่ ผมใช้ชีวิตอย่างนี้มาสามสิบปีไม่เคยรู้จัก ความเหงา พอคนงานกลับไปหมด บ้านจะเงียบ ไม่มีคนอยู่ในสายตา ผมปิดไฟ มองเห็นดาวเต็มท้องฟ้า นอนฟังเสียง จักจั่น แค่นี้สำหรับผมก็พอแล้ว นิรุตติ์ ศิริจรรยา

คุณแหลม ชาวนาชีวิตพอเพียง

คุณแหลม พูลศักดิ์ สมบูรณ์ ชาวนาชีวิตพอเพียง


คุณแหลมเป็นชาวอำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ซึ่งจัดว่าเป็นจังหวัดแห้งแล้งจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย ปัจจุบัน คุณแหลมใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวงมากว่าปีที่ 11 แล้ว ชีวิตก่อนหน้าที่เป็นทหารนั้น ไม่อยากทำนา เพราะเนื่องจากคิดว่าต้องลำบาก ตากแดด ไม่ร่ำรวยเหมือนอาชีพอื่น และคิดจะเข้ากรุงเทพฯ เหมือนชาวชนบทอื่นๆ แต่จริงแล้วชีวิตชาวนาก็มีความสุขกับชีวิต คุณแหลมได้เป็นทุกอย่างอย่างที่ต้องการ เช่น เป็นประมง จากการเลี้ยงกบ เลี้ยงปลา เป็นปศุสัตว์และเป็นสัตวแพทย์จากการเลี้ยงวัว-ควาย เป็นพัฒนาที่ดินจากความสามารถปรับปรุงสภาพดินได้เอง ซึ่งในไร่นาของคุณแหลมไม่ใช้ปุ๋ยและฮอร์โมนทางเคมีเลย ปุ๋ยบำรุงดินจะใช้แต่ใบไม้ ฟาง ขี้วัว-ควาย และปุ๋ยหมักเป็นหลัก โดยเฉพาะการใช้พืชตระกูลถั่ว

คุณแหลมมีภรรยาและครอบครัวแล้วโดย มีลูกชาย 2 คน โดยคนโตอยู่ชั้น ม.3 ส่วนคนเล็กอยู่ชั้น ป.5 คุณแหลมไม่บังคับให้ลูกเป็นชาวนา แต่เพราะคุณแหลมนั้นศรัทธาในวิถีชีวิตชาวนา ซึ่งสามารถดูแลตัวเองได้ ทำให้ลูกทั้งสองตั้งใจที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของคุณพ่อต่อไป คุณแหลมให้เหตุผลว่าอาจจะด้วยการเห็นด้วยตาทุกวันว่าพ่อไม่ได้เป็นลูกน้องใคร อยากทำก็ทำ อยากพักก็สามารถหยุดพักได้ และการที่คุณแหลมเป็นชาวนั้นก็เพราะเลือกที่จะเป็น และเป็นอย่างภาคภูมิใจ

จากก่อนหน้านี้ที่คุณแหลมเคยเข้ามามีชีวิตอยู่ในเมืองระยะหนึ่งก็ทำให้สั่งสมประสบการณ์ไปพอสมควร เช่น ไปทำงานก่อสร้างก็ได้ความรู้ด้านการก่อสร้าง ไปรับราชการทหารก็เอาการฝึกมาใช้ฝึกคนในชีวิตจริง ไปเป็นช่างก็เหมือนก็ได้เป็นวิชาชีพนั้นมาใช้ แต่โดยลึกๆ แล้วคุณแหลมมองว่าการทำงานเหล่านั้นอาจจะได้เงินจริงแต่ก็ไม่มีความสุข ทุกๆวันชาวกรุงต้องซื้อยาพิษรับประทาน ชีวิตในเมืองการทำอะไรก็เสียเงินทั้งหมด โดยคุณแหลมเองก็มองด้วยความเห็นใจ

การทำไร่นาสวนผสมหลังจากทำวิถีชีวิตพอเพียง ชีวิตคุณแหลมก็ดีขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกว่าได้ทุกอย่างในชีวิต ทั้งความรู้ ประสบการณ์ และปัญญาแข็งแรงขึ้น ได้ทดลองศึกษาด้วยตัวเอง คุณแหลมจะโกรธมากถ้ามีใครมาดูถูกในภูมิปัญญาของตัวเอง จากความคิดในช่วง 3 ปีแรกที่อาจจะท้อบ้าง สิ่งที่เลี้ยง ที่ปลูกมานั้นแค่เพียงพอหรับบริโภคในครัวเรือน แต่หลังจากมีความรู้มากขึ้น มีประสบการณ์แข็งแรงขึ้น ในปีที่ 4 จึงจะมีรายได้ ได้เงินเข้ามาจุนเจือครอบครัว ก็ทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น และหลังจากปีที่ 6 และ7 ก็เริ่มมีฐานะดีขึ้น และยังบอกต่อไปว่าในปีที่ 10 นั้นรายได้จะใช้อย่างไรก็ไม่หมด คุณแหลมจึงสรุปให้ว่าอาชีพนี้ไม่ใช่อาชีพที่เสี่ยง ไม่ต้องคิดว่าลงทุนมากมายหรือจะได้กำไรมหาศาล การไม่มีรายได้ก็ถือว่าเราได้ความรู้กลับมา ปัจจุบันชีวิตของคุณแหลม แทบจะไม่ได้ใช้เงินเลย เนื่องด้วย อยากกินอะไรก็สามารถหารับประทานได้ในไร่นาของตัวเอง ตัวอย่างเช่น วันนี้มีต้มปลานิล ก็ได้จากปลา, ผักตะไคร้และผักเครื่องปรุงอื่นๆ จากที่เลี้ยงและปลูกด้วยตัวเอง

ชีวิตครอบครัวในช่วงแรกที่คุณแหลมใช้ชีวิตแบบพอเพียง คุณแหลมต้องรับผิดชอบครอบครัวและทำงานอยู่ลำพัง แต่เมื่อเริ่มท้อจึงได้ให้ลูกและภรรยาไปลองศึกษาบ้างเพื่อให้เข้าใจ ให้กลับมาช่วยงานได้มากขึ้น แรกๆ ภรรยาแทบจะไม่เชื่อวิถีชีวิตอินทรีย์แบบนี้เลย แต่ในภายหลังก็ไปได้ดีขึ้น ภรรยาก็ทำงานร่วมกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ซึ่งลุงแหลมจะทำตัวให้เป็นตัวอย่าง โดยเป็นคนประหยัด ถ้าไม่มีรองเท้าก็สามารถเดินเท้าเปล่าได้ ถ้าเสื้อขาดก็สามารถซ่อมเองได้


คุณแหลมจะให้ความสำคัญด้านอาหาร กินอาหารที่ปลอดภัย มีอาหารดีๆ บริโภค ไม่อยากได้บ้านหลังใหญ่ๆ สวยๆ หรือรถราคาแพง แต่อยากอยู่ห่างจากโลกที่วุ่นวาย เพราะคิดว่าที่นี่คือความสุข ของใช้เครื่องเรือนต่างๆ ที่บ้านคุณแหลมส่วนมากจะเป็นของที่ผู้อื่นบริจาคมา ไม่ได้ซื้อเอง เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์ โดยส่วนมากคุณแหลมจะฟังวิทยุ เพราะข่าวและละครส่วนมากจะมีแต่สื่อที่มอมเมาประชาชน เมื่อดูแล้วก็จะเกิดกิเลสอีกด้วย คุณแหลมยอมรับว่าคงปฏิเสธเทคโนโลยีและของใหม่ๆ ไม่ได้ แต่ต้องรู้จักใช้ และอย่าลืมสิ่งของที่ใช้มาแต่ครั้งดั้งเดิม การมีความสุขกับสิ่งเรียบง่ายนั้นเป็นวิถีชีวิตของบรรพบุรุษ เนื่องจากปู่ย่าตายายสอนมาแบบนี้ ไม่ได้ให้เงินเป็นตัวนำของชีวิต ซึ่งคุณแหลมเองก็พยายามสั่งสอนลูกทุกอย่าง เช่น สอนให้ใช้เงินได้แต่ใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ซื้อของที่เหนือกำลังของตัวเอง บางครั้งคุณแหลมก็ให้ลูกทำงานแลกเปลี่ยน เช่น ปลูกข่า มะละกอ ขุดดิน และสิ่งที่คนอื่นน่าจะเอาเป็นเยี่ยงอย่างก็คือการทำโทษลูกๆ ที่จะให้ลูกทำงานแทน เช่น ขุดหลุมปลูกต้นข่า ซึ่งจะทำให้ลูกแข็งแรงและคุณแหลมเองก็ได้งานอีกด้วย

ตารางชีวิตคุณแหลมมักจะนอนดึก แต่ก็ต้องตื่นมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อรับเงินที่มาหาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางด้วยการจับกบเขียดไปขาย จากนั้นสายๆ จึงเปลี่ยนน้ำบ่อปลา ปลูกต้นไม้ ทำนา ซึ่งในช่วงเวลานี้ของปีก็มีงานที่หนักพอสมควร ในช่วงแรกคุณแหลมมี 16 ไร่ แต่ตอนนี้มีอยู่ถึง 44 ไร่ แรงงานหลักก็คือคนในครัวเรือน นอกเหนือจากนั้นก็จะมีเด็กๆ จากเพื่อนๆ มาฝึกงานอยู่เสมอ โดยคุณแหลมก็จะสอนวิชาเพาะเห็ด เพาะพันธุ์ปลา และ ซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งความตั้งใจก็เพื่อที่จะถ่ายทอดความรู้ทั้งหมดให้กับเด็กรุ่นใหม่ๆ

สิ่งที่คุณแหลมอยากฝากให้กับคนเมืองก็คือการใช้ชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อย่าทำงานเกินกำลังตัวเอง อย่าคิดจะรวยเร็วจนปิดบังปัญญาของตัวเอง แต่อยากให้ดูกำลังและภูมิปัญญาของตัวเองเป็นหลักในเบื้องต้นก่อน ก่อนจะทิ้งท้ายไว้ว่า “จนเงินได้แต่ห้ามจนปัญญา”

๑๓/๙/๕๐

ขอเชิญร่วมงานสัมมนาในหัวข้อ "เยาวชนผลประโยชน์เพื่อใคร"

ขอเชิญร่วมงานสัมมนาในหัวข้อ "เยาวชนผลประโยชน์เพื่อใคร"
ในวันที่ 13 กันยายน 2550 เวลา 10.00 -12.00 น.
ณ ห้องประชุมชั้น 7 อาคารสยามบรมราชกุมารี
สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

  • 9.30 น. – 9.45 น. ลงทะเบียน
  • 9.45 น. – 10.00 น. อธิบดีกรมการแพทย์กล่าวเปิดงาน
  • 10.00 น. – 10.20 น. บรรยายพิเศษเรื่อง “การขับเคลื่อนงานด้านเด็กและเยาวชน” โดย นายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี / ประธาน คณะทำงานเพื่อการประสานงานยุทธศาสตร์ด้านเด็กและเยาวชน
  • 10.20 น. – 11.40 น. เสียงสะท้อนจากตัวแทนเยาวชน และผู้ทำงานด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว เกี่ยว กับวาระเด็กและเยาวชนปี พ.ศ.2550 (ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายนโยบาย) จำนวน 5 ท่าน
    1. สื่อสร้างสรรค์สำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว โดยนายจุลศักดิ์ แก้วกาญจน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
    2. กิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน โดยนางสาวรสนา อารีฟ ผู้ประสานงานกลุ่มเยาวชน Black Box และ กรรมการวาระเด็กและเยาวชนเรื่องกิจกรรม
    3. สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็ก และโรงเรียนอนุบาลที่มีคุณภาพ นางทิพย์สุดา สุเมธเสนีย์ นักวิชาการ 8ว. สำนักงานเลขาธิการสภา การศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
    4. จังหวัดน่าอยู่สำหรับเด็ก นายสถาพร พันธุ์ประดิษฐ์ ประธานสภาเยาวชน จังหวัดตรัง
    5. กฎหมายครอบครัว นายวันชัย บุญประชา ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะครอบครัวและผู้จัดการ มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว
  • 11.40 น. – 12.15 น. ร่วมแสดงความคิดเห็น
  • 12.15 น. – 12.30 น. สรุปประเด็น โดย นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน


*หมายเหตุ เชิญรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน

๑๐/๙/๕๐

ขอเชิญร่วมงานประชุมเสวนา

เครือข่ายวิทยุเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว ภายใต้การดูแลของมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว โดยการสนับสนุนจาก แผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.) และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เครือข่ายรายการวิทยุเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว เกิดจากการรวมตัวกันแบบหลวม ๆ ของนักจัดรายการวิทยุที่เห็นความสำคัญของช่องทางในการนำเสนอสื่อสร้างสรรค์ที่หลากหลายให้มากขึ้น ในรูปแบบเครือข่ายผ่านกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบ่งปันประสบการณ์ซึ่งกันและกัน และเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันจึงจัดให้มี เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครือข่ายวิทยุเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว เรื่อง “รายการวิทยุตะวันออกพบตะวันตก” โดยวิทยากรผู้มีประสบการณ์ด้านรายการวิทยุจากประเทศไทยและประเทศอังกฤษจึงขอเรียนเชิญท่านเข้าร่วมประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และระดมความคิดเห็นในวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๐ เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. ณ ลานสร้างสุข สสส. ชั้น ๓๕ อาคารเอสเอ็มทาวเวอร์ ถ.พหลโยธิน

กำหนดการประชุมเสวนาเรื่อง “รายการวิทยุตะวันตกพบตะวันออก”
วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๐
ณ ลานสร้างสุข สสส. ชั้น ๓๕ อาคารเอสเอ็มทาวเวอร์
....................................
เวลา
๑๓.๐๐ - ลงทะเบียน
๑๓.๓๐ - กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของเครือข่ายรายการวิทยุเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว
๑๔.๐๐ - เสวนา “รายการวิทยุตะวันตกพบตะวันออก” โดย
· รศ.จุมพล รอดคำดี ในฐานะประธานเครือข่ายรายการวิทยุเพื่อเด็ก
· คุณสมชัย สุวรรณบรรณ อดีตหัวหน้าสถานีวิทยุบีบีซีภาคภาษาไทย
· คุณจเลิศ เจษฎาวัลย์ อาจารย์มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้ดำเนินการ

๑๕.๓๐ - เปิดเวทีฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมการเสวนา
๑๖.๐๐ - จบการเสวนา

งานแถลงข่าวรายการครอบครัวคุยกันและรายการเพื่อเด็กอื่นๆ

งานแถลงข่าวการเปิดตัวรายการครอบครัวคุยจัดขึ้นในวันที่ 8 สิงหาคม 2550 ณ หอประชุมใหญ่ อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ

เพื่อสนับสนุนเด็กให้ได้รับสื่อสร้างสรรค์เหมาะสมกับวัย กระทรวงศึกษาธิการ( ศธ.) ร่วมกับเครือข่ายรายการวิทยุ เพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว มูลนิธิเครือข่ายครอบครัวแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะ เยาวชน (สสย.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกันแถลงข่าวสถานีวิทยุศึกษาเป็นสถานีวิทยุนำร่องเพิ่มสัดส่วนรายการวิทยุเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว

ดร.จรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การเพิ่มสัดส่วนรายการวิทยุเพื่อ เด็ก เยาวชนและครอบครัวครั้งนี้ เป็นการดำเนินการที่สอดรับกับวาระแห่งชาติ ปี 2550 ที่ให้มีสื่อสร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชนและครอบ ครัว ส่งเสริมสนับสนุนความสามารถของเด็ก พร้อมทั้งจัดสิ่งแวดล้อมที่ดีให้เด็ก ดังนั้น ศธ.จึงได้ร่วมกับ 4 องค์กรหลักเพิ่มสัดส่วน รายการสถานีวิทยุศึกษาเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัวขึ้นอีก สำหรับสัดส่วนรายการที่เพิ่มขึ้นในรายการวิทยุเพื่อการศึกษา ที่จะออกอาการในคลื่นความ ถี่ FM 92.0 Mhz และ AM 1161 KHz อีก 4 รายการ ได้แก่

1. รายการโลมา...ลั้นลา โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือเด็กอายุ 3-5 ปีออก อากาศทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 -18.00 น. และจะเริ่มออกอากาศ ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2550 นี้เป็นต้นไป

2. รายการวัยใสวัยสร้างสรรค์ กลุ่มเป้าหมาย คือเด็กและเยาชน ออกอากาศทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 16.00- 17.30 น.

3. รายการโลกของเรา เป็นรายการที่จัดขึ้นโดยบีบีซีไทย กลุ่มเป้าหมาย คือครอบครัว จะออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ เวลา 19.30-20.00 น.

4. รายการครอบครัวคุยกัน กลุ่มเป้าหมาย คือ ครอบครัว ออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงวันอาทิตย์เวลา 20.00 -22.00 น.

รายการเพื่อเด็กเยาวชนและครอบครัว ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ทั้ง 4 รายการนั้นเป็นรายการที่จะส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้รับสื่อที่สร้างสรรค์ เหมาะสมกับวัยและเป็นรายการที่ ผลิตจากผู้เข้าใจเด็กในแต่ละวัย และที่สำคัญมาจากใจของผู้ที่รักเด็ก

ข่าวรณรงค์

ช่วยกันลดมลพิษคนละนิด ลดการใช้โฟมและถุงพลาสติก ปิดเครื่องไฟฟ้าหลังใช้งานทุกครั้ง

ความคิดเห็นล่าสุด