ฟังรายการสถานีวิทยุศึกษา FM 92 MHz.



ครอบครัวข่าวสาร





มาร่วมคุยกันดีกว่า

๒๘/๑๐/๕๑

10 วิธีลดเสี่ยง ห่างภัยมะเร็งร้าย

มะเร็งเป็นโรคที่เกิดกับใครก็ได้ ไม่ว่าเด็ก คนแก่ ผู้หญิงหรือผู้ชาย จะร่ำรวยหรือยากจน มะเร็งยังคงเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของผู้คนทั้งในประเทศที่ พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา แต่ข่าวดีก็ยังมีอยู่ นั่นคือองค์ความรู้เกี่ยวกับสาเหตุของโรคมะเร็งได้รับการพัฒนาไปมากพอจนเรา เรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเองจากโรคมะเร็งได้


ในงานเปิดตัว บัตร Healthy Living Club บัตรรักษาสุขภาพของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีการให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องสุขภาพหลายอย่างที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง คือ เรื่องโรคมะเร็ง พร้อมคำแนะนำ 10 ประการ ที่ปฏิบัติได้เพื่อชีวิตห่างไกลโรคมะเร็ง

1. ลด หรือเลิกบุหรี่ การเลิกสูบ บุหรี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมครั้งสำคัญที่สุดที่จะลดความเสี่ยงจาก มะเร็งปอดและโรคอื่นๆ ที่มีสาเหตุมาจากบุหรี่ เลิกบุหรี่อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ขอคำปรึกษาถึงวิธีการเลิกแบบต่างๆ จากแพทย์ได้ ทั้งการรักษาด้วยยาหรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

2. กินอาหารที่มีประโยชน์ ตอนเด็กๆ หลายคนอาจเซ็งที่ถูกบังคับให้กินผัก แต่เมื่อโตขึ้นจะรู้ว่าผักเป็นประโยชน์มากต่อตัวเราเอง ผักจำพวกบร็อกโคลี่ กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี และกะหล่ำขาว อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นในการต่อสู้กับมะเร็ง รวมทั้งเป็นส่วนประกอบสำคัญในตำรับอาหารต้านมะเร็ง นอกจากนี้ ผลเบอร์รี่ ถั่วแดง และชาเขียว ก็อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับไวน์แดง ช็อกโกแลต และถั่วพีแกน สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ช่วยร่างกายต่อต้านปฏิกิริยาเคมีที่ส่งผลร้ายต่อ เซลล์ปกติซึ่งในท้ายที่สุดอาจกลายเป็นเซลล์มะเร็ง อย่างไรก็ตาม ควรกินแต่พอประมาณ

3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกาย นานครั้งละ 30 นาที 3-5 วัน ต่อสัปดาห์ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งหลายชนิด อาทิ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้ การออกกำลังกายในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงแบบ นักกีฬา แต่การเล่นโยคะ เดิน หรือเต้นแอโรบิกก็ถือเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งได้ดีที่ สุดเช่นกัน นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยไม่ให้เป็นโรคอ้วน ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งหลายชนิด

4. ตรวจสุขภาพประจำปี มีหลักฐานยืน ยันว่าการตรวจสุขภาพประจำปีและการตรวจพบมะเร็งแต่เนิ่นๆ ทำให้โอกาสที่จะรักษาจนหายมีมากขึ้นเท่านั้น และยังช่วยให้การรักษาฟื้นฟูทำได้เร็วขึ้นโดยมีผลข้างเคียงลดลง ดังนั้น ควรตรวจร่างกายสม่ำเสมอและขอคำแนะนำจากแพทย์เรื่องการตรวจคัดกรองมะเร็งที่ เหมาะกับวัย เช่น ผู้หญิงในวัย 40 ปีขึ้นไปควรทำแมมโมแกรมเพื่อตรวจหามะเร็งเต้านม หรือชายในวัย 40 ปีขึ้นไปควรตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมาก โดยที่มะเร็งบางชนิดอาจไม่แสดงอาการในระยะเริ่มแรก

5. ดื่มแต่พอดี การดื่ม แอลกอฮอล์ที่มากเกินไปอาจเป็นผลร้ายต่อตับมากเป็นพิเศษ แม้แพทย์จะแนะนำให้ผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่ พอเหมาะ (ไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน)

6. สืบสาวเรื่องราวครอบครัว มะเร็งหลายชนิด มักเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ หรือพูดง่ายๆ มะเร็งสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้ ดังนั้นการได้ทราบว่าคนในครอบครัวของคุณมีประวัติเจ็บป่วยด้วยมะเร็งชนิดใด ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการป้องกันมะเร็ง โดยการพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง และควรแจ้งประวัติการเจ็บป่วยของคนในครอบครัวให้แพทย์ทราบ เพื่อแพทย์จะให้คำแนะนำและดูแลได้เหมาะสม

7. หลีกเลี่ยงแสงแดด รังสีอัลตรา ไวโอเลต (ยูวี) ในแสงแดดเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งผิวหนังซึ่งส่วนมากสามารถป้องกันได้ง่ายๆ 2 วิธีคือ ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปเมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง และพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดโดยตรงในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่รังสียูวีมีความเข้มสูงสุด

8. มีเพศสัมพันธ์ปลอดภัย เพศสัมพันธ์ที่ ปลอดภัยไม่เพียงช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกซึ่งเป็น สาเหตุสำคัญในการเสียชีวิตของผู้หญิงไทยและผู้หญิงทั่วโลก เชื่อกันว่าประมาณร้อยละ 70 ของมะเร็งปากมดลูกมีสาเหตุมาจาก Human Papillomavirus (HPV) ที่สำคัญ เชื้อ HPV นี้ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งที่ทวารหนัก และอวัยวะเพศอีกด้วย แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาวัคซีนชนิดใหม่ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อ HPV ได้ในระดับหนึ่ง โดยต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์

9. นอนหลับให้สนิท จากการศึกษาพบ ว่า การนอนหลับสนิทจะมีผลไม่ทำให้เป็นมะเร็ง เนื่องจากสารเมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สมองผลิตในระหว่างการนอนหลับมี คุณสมบัติต่อสู้กับมะเร็ง แต่เมลาโทนินจะช่วยป้องกันมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อการนอนนั้น เป็นการ นอนหลับสนิทต่อเนื่องในห้องมืดเท่านั้น

10. หลีกเลี่ยงการเผชิญกับสารเคมีอันตราย สารจำพวกยาฆ่า แมลง น้ำยาทำความสะอาด น้ำมันเบนซินนั้น เต็มไปด้วยสารเคมีอันตรายที่เกี่ยวโยงกับการเกิดมะเร็ง แม้การควบคุมสิ่งแวดล้อมรอบตัวจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การจำกัดหรือหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเหล่านี้ในบ้านหรือที่ทำงานย่อมเป็น การลดโอกาสในการสัมผัสกับสารก่อมะเร็ง นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารกันไฟ หรือ PBDE ซึ่งมักจะใช้กับผ้า เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ด้วยเช่นกัน
ขอขอบคุณสาระดีๆ จาก

๑๖/๑๐/๕๑

ตะลึง! นมยี่ห้อดัง พบเมลามีนเกินถึง 37 เท่า

ตะลึง "นมตรามะลิ" พบ "เมลามีน" เกินถึง 37 เท่า!! อย.อายัด 1.5แสนกระป๋อง เรียกคืนยกล็อตออกจากตลาด ด้านบริษัทยันไม่ใช้ของจีน

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ว่า อย.ได้รับผลการตรวจวิเคราะห์สารเมลามีนจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบสารเมลามีน 1 รายการ คือ นมข้นแปลงไขมันไม่หวาน สูตรน้ำมันปาล์ม ตรามะลิ ชนิดกระป๋อง เลขสารบบ อย. 14-1-02323-1-0037 น้ำหนักสุทธิ 385 กรัม วันหมดอายุ 160109 ผลิตโดยบริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ตรวจพบปริมาณสารเมลามีน 92.82 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ซึ่งเกินค่ามาตรฐานที่ อย.กำหนดในผลิตภัณฑ์นมต้องมีเมลามีนไม่เกิน 2.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

ทั้งนี้ อย.ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของบริษัทอุตสาหกรรมนมไทยมาตรวจสอบทั้งสิ้น จำนวน 10 รายการ พบปนเปื้อน 1 รายการ, ไม่พบการปนเปื้อนของสารเมลามีนจำนวน 6 รายการ คือ

1. นมดัดแปลงสูตรต่อเนื่องสำหรับทารกและเด็กเล็ก อายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 3 ปี ชนิดละลายทันทีสูตร 2 นูโอ-พลัส เครื่องหมายการค้าสโนว์แบรนด์
2. นมผงดัดแปลงสำหรับทารกชนิดละลายทันที สูตร 1 สำหรับทารกตั้งแต่แรกเกิดถึง 1 ปี นูโอ เครื่องหมายการค้าสโนว์แบรนด์

3. ผลิตภัณฑ์นมชนิดละลายทันที สูตร 3 ผลิตภัณฑ์นมชนิดละลายทันที สำหรับเด็กวัย 1 ปีขึ้นไป และทุกคนในครอบครัว นูโอ-คิดส์ เครื่องหมายการค้าสโนว์แบรนด์
4. นมข้นแปลงไขมันหวาน สูตรน้ำมันปาล์มผสมมันเนย ตรามะลิ นมผงขาดมันเนย 20%

5. Foster Farms Dairy NON FAT DRY MILK MADE FROM PASTEURIZED MILK และ

6. Skimmed Milk Powder
ส่วนอีก 3 รายการ รอผลการตรวจสอบ ได้แก่ เนยชนิดเค็ม ตราออร์คิด ครีมเทียมข้นหวานชนิดพร่องไขมัน ตรา เบิดวิงซ์ นมข้นแปลงไขมันหวาน ตรามะลิ

นายวิชาญ กล่าวด้วยว่า เมื่อได้รับผลการตรวจวิเคราะห์พบสารเมลามีน เจ้าหน้าที่ อย.จึงรีบเข้าไปตรวจสอบยังโรงงาน เลขที่ 158 นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจสอบการใช้วัตถุดิบ โดยบริษัทอุตสาหกรรมนมไทยได้แจ้งว่า วัตถุดิบที่นำมาใช้มาจากหลายแหล่งหลายประเทศ เช่น เบลเยี่ยม สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย เยอรมนี อินเดีย และพม่า เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ อย.อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง นอกจากนี้ ยังได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบของบริษัทมาตรวจสอบเพิ่มเติมอีก จำนวน 15 รายการ และได้ประสานด่วนโดยทำหนังสือถึงบริษัทฯ ผู้ค้าปลีก และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ให้เรียกคืนผลิตภัณฑ์รุ่นที่มีปัญหาดังกล่าว รวมทั้งทุกผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้วัตถุดิบเดียวกัน พร้อมทั้งนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบเดียวกันออกจาก ชั้นวางจำหน่ายทุกแห่งทันที

นพ. พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่โรงงานเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดนมชนิดนี้ทั้งสิ้น 1.5 แสนกระป๋อง ซึ่งทราบว่าในรอบปีนี้บริษัทมีการผลิตสินค้าชนิดนี้ทั้งสิ้น 4 ล็อต โดยล็อตที่มีการตรวจพบสารเมลามีนปนเปื้อนเป็นล็อตที่ผลิตเมื่อราววันที่ 16 มกราคม 2551 ซึ่งผลิตจำนวนทั้งสิ้น 4 หมื่นกระป๋อง อย.ได้สั่งเก็บออกจากท้องตลาดทั้งหมด ส่วนอีก 3 ล็อตได้สั่งการให้นำออกจากชั้นวางจำหน่ายเป็นการชั่วคราวจนกว่าผลการตรวจสอบ จะออกมาว่ามีการปนเปื้อนหรือไม่ หากไม่มีก็ให้นำมาวางจำหน่ายได้ตามปกติ

"ในการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า วัตถุดิบที่บริษัทใช้มีการนำเข้าจากหลายประเทศ แต่ไม่มีประเทศจีนแน่นอน จึงต้องสอบย้อนกลับไปว่าประเทศที่ขายวัตถุดิบให้กับบริษัทนี้นำเข้าวัตถุดิบ จากประเทศไหนต่อไป ส่วนระยะยาว อย.จะขอความร่วมมือให้บริษัทนี้ เฝ้าระวังและตรวจสอบวัตถุดิบเข้มข้นมากขึ้น ในขณะที่ อย.ก็จะเก็บสินค้าของบริษัทที่วางจำหน่ายในท้องตลาดมาตรวจสอบเป็นระยะๆ เช่นกัน ส่วนสินค้าที่มีผู้บริโภคซื้อไปแล้ว หากเกิดอะไรขึ้นบริษัทต้องรับผิดชอบ ส่วนผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันของยี่ห้ออื่นๆ อย.ได้เก็บตัวอย่างมาตรวจแล้วแต่ยังไม่ทราบผล" นพ.พิพัฒน์ กล่าว

เลขาธิการ อย. กล่าวอีกว่า สำหรับผล กระทบที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย จะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับคุณภาพไตของแต่ละบุคคล ปริมาณที่รับประทาน และน้ำหนักตัวของผู้บริโภค ทั้งนี้ ตามเกณฑ์มาตรฐานมีการระบุว่าสามารถบริโภคเมลามีนได้ไม่เกิน 0.5 มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัมต่อวัน หากน้ำหนักตัว 40 -50 กิโลกรัม ก็บริโภคได้ไม่เกิน 25 มิลลิกรัม ซึ่งนมชนิดนี้ 1 กระป๋องน่าจะมีปริมาณประมาณ 500 กรัม เพราะฉะนั้น หากบริโภค นมหมดใน 1 กระป๋อง จะได้รับสารเมลามีนประมาณ 45 มิลลิกรัม แต่โดยมากไม่มีใครบริโภคหมด 1 กระป๋องใน 1 วัน เพราะอย่างมากคงใส่ในกาแฟเพียงเล็กน้อย แต่หากเป็นในเด็กเล็กจะมีอันตรายมากกว่าเพราะระบบย่อยอาหารยังไม่ดี สำหรับความผิดที่จะได้รับคือ โทษฐานผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ขอขอบคุณข่าวจาก

๗/๑๐/๕๑

รักษาภาวะโรค....ขี้ลืม ด้วยสารสกัด ' พริกไทยดำ '


อัลไซเมอร์” หรือความจำเสื่อม เป็นโรคที่ผู้คนในสังคมปัจจุบันเริ่มเป็นกันมากโดยไม่รู้ตัว ซึ่งมี “ต้นสายปลายเหตุ” มาจากภาวะ “เครียดสั่งสม” ทั้งจากปัญหาสิ่งแวดล้อม อาหาร ขาดการออกกำลังกาย รวมทั้ง “โหม” งานหนัก พักผ่อนน้อย ส่งผลให้ สมองเกิดความล้า จำเหตุการณ์ และ ช่วง เวลาได้ไม่แน่นอน ขี้หลงขี้ลืมในระยะแรกๆ ต่อมาพฤติกรรม บุคลิกเริ่มเปลี่ยน ความทรงจำความนึกคิด การมีเหตุมีผล (cognitive) เริ่มลดน้อยถอยลง

เพื่อลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคดังกล่าว รศ.ดร. อรุณศรี ปรีเปรม คณะเภสัชศาสตร์ รศ.ดร.สมเดช กนกเมธากุล คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงนำพริกไทยดำมาสกัด เพื่อใช้ “รักษาภาวะความจำบกพร่อง
รศ.ดร.อรุณศรี บอกว่า โครงการดังกล่าวทีมวิจัยได้ทำการศึกษามาเป็นระยะเวลา 2 ปี ซึ่งเริ่มแรกนั้น คณะแพทยศาสตร์ ทำการศึกษาสมุนไพรหลายชนิดคือ หัวหอม ใบบัวบก ขิง พริกไทย เพื่อเอามาคัดว่าสารกลุ่มไหนมีโอกาสสามารถนำมาใช้ได้ดีที่สุด และพบว่า “พริกไทยดำ” จะมีสาร พิเพอร์ลีน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยทำให้สมองส่วนที่บกพร่องสามารถกู้กลับคืนมาได้ ต่อมา รศ.ดร.สมเดช หนึ่งในทีมวิจัยฯ จึงเริ่มเสาะหาวัตถุดิบในหลายๆพื้นที่มาวิเคราะห์จึงได้ข้อมูลว่า พริกไทย ดำจากจังหวัดจันทบุรีมี สาร พิเพอร์ลีน คุณภาพยอดเยี่ยม

การสกัดสารฯ ด้วยการนำ “พริกไทยดำ” มาบรรจุภาชนะที่เตรียมไว้ในห้องปฏิบัติการ ใช้แอลกอฮอล์ 50 เปอร์เซ็นต์ ผสมกับน้ำ วนกลั่นในเครื่องมือกระทั่งได้ สารที่ข้น จากนั้นนำมาทำให้บริสุทธิ์ ด้วยการปล่อยให้ตกผลึก ซึ่งต้องใช้เวลาหลายวัน จากน้ำ ที่ดำจะกลายเป็นผงขาว (พิเพอร์ลีน)
เพื่อให้ใช้ได้สะดวก หยอดจมูกแล้วไม่แสบฉุน ไม่ระคายเคือง ทีมวิจัยจึงนำไปปรับให้อยู่ในรูปอนุภาค “นาโน” โดยใช้ ไขมัน กับ ฟอสโฟลิปิด ซึ่งมีอยู่ใน ถั่วเหลือง และ ไข่แดง มาปั่นด้วยเทคโนโลยี กระทั่งพิเพอร์ลีนถูกหุ้มด้วยไขมัน ลักษณะใส ไม่มีกลิ่น ขนาดเล็ก สามารถใช้หยอดจมูก เพื่อนำไปสู่ระบบสมองได้โดยตรง

ผศ.ดร.จินตนาพรณ์ วัฒนธร ได้มาทดสอบกับหนูทดลองซึ่งเป็นโรคอัลไซเมอร์ ด้วยการหยอดเข้าทางจมูกวันละ 1 ครั้งในปริมาณที่เหมาะสม ระยะเวลา 1 เดือน ให้ผลว่า สารดังกล่าวสามารถช่วยทำให้สมองส่วนที่บกพร่องของสัตว์ ทดลองมีอาการกลับเป็นปกติ เหมือนหนูกลุ่มควบคุมที่ นำมาใช้เปรียบเทียบ
และ...ในขั้นต่อไปคณะวิจัยจะส่งต่อผลงานไปสู่คณะแพทยศาสตร์ เพื่อเริ่มนำไปทดลองกับกลุ่มอาสา
สมัคร....คาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ แพทย์ไทยจะสามารถรักษาโรค “ขี้ลืม” ได้อย่างแน่นอน

ขอขอบคุณข่าวจาก

๓/๑๐/๕๑

อย.ออกหนังสือรับรอง 27 ผลิตภัณฑ์ ไร้สารปนเปื้อน เมลามีน

อย.ออกหนังสือรับรองผลิตภัณฑ์แก่บริษัทผู้ผลิตและนำเข้า ที่ผลตรวจไม่พบการปนเปื้อนสารเมลามีนจำนวน 6 บริษัท รวมทั้งสิ้น 27รายการ เช่น เอ็มแอนด์เอ็ม นมดัชมิลล์ นมดูเม็กซ์ และเมนทอส โยเกิร์ต มิกซ์

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวนมผง ซึ่งผลิตในจีนปนเปื้อนสารเมลามีน ทำให้เด็กป่วยเป็นจำนวนมากและเสียชีวิตนั้น กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการดำเนินงานของสำนัก งานคณะกรรมการ-อาหารและยา (อย.) ซึ่งมีมาตรการเข้มงวดมิให้ ผลิตภัณฑ์นมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีนมเป็นส่วนประกอบ มีการปนเปื้อนสารเมลามีนถึงมือผู้บริโภคได้

นพ.พิพัฒน์ กล่าวว่า อย.ได้ให้หนังสือรับรองผลิตภัณฑ์แก่บริษัทผู้ผลิตและนำเข้า ที่ผลตรวจไม่พบการปนเปื้อนสารเมลามีนจำนวน 6บริษัท รวมทั้งสิ้น 27 รายการ ดังนี้


1. บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด
- เวเฟอร์สติ๊กไวท์ช็อกโกแลต (เวเฟอร์เคลือบ ช็อกโกแลตขาว) (เครื่องหมายการค้าโอรีโอ) 10-3-26848-1-0365 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2551
- เวเฟอร์สติ๊กช็อกโกแลต (เวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลต) (เครื่องหมายการค้าโอรีโอ) 10-3-26848-1-0367 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2551

2.บริษัท มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์ จำกัด
- M&M’S MILK CHOCOLATE 10-3- 03839-1-0045 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2551
- DOVE MILK CHOCOLATE 10-3-03839-1-0066 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2551
- SNICKERS 10-3-03839-1-0060 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2551
- M&M’S MINIS 10-3-03839-1-0058 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2551
- M&M’S PEANUT CHOCOLATE 10-3-03839-1-0059 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2551
- DOVE HAZEL, ALMOND AND RAISIN 10-3-03839-1-0092 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2551
- DOVE HAZELNUT 10-3-03839-1-0071 เมื่อวันที่ 29 กันยายน

3.บริษัท ซีโน-แปซิฟิคเทรดดิ้ง(ไทยแลนด์) จำกัด
- ผลิตภัณฑ์ เมนทอส โยเกิร์ต มิกซ์ (MENTOSYOGHURT MIX) ลูกอมรสโยเกิร์ต กลิ่นผลไม้รวม 10-3-11523-1-2385 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2551

4. บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด
- ไอซ์คอนเฟคชันรสช็อกโกแลตเคลือบรสช็อกโกแลตและชิ้นขนมปังกรอบรสช็อกโกแลต(ไอศกรีมดัดแปลงผสม) (เครื่องหมายการค้า วอลล์ มินิ ป๊อปเปอร์) 10-3-08945-1- 0099 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2551
- ไอซ์คอนเฟคชันกลิ่นวานิลลาเคลือบรสช็อกโกแลต, ถั่วลิสง และชิ้น ข้าวกรอบ (ไอศกรีมดัดแปลงผสม) (เครื่องหมายการค้า วอลล์ มินิ ป๊อปเปอร์) 10-3- 08945-1-0100 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2551
- ไอซ์คอนเฟคชันกลิ่นวานิลลาและบิสกิตรสช็อกโกแลต (ไอศกรีมดัดแปลง ผสม) (เครื่องหมายการค้า วอลล์ มอ ซอฟท์ คุกกี้ แซนด์วิช) 10-3-08945-1-0096 เมื่อ วันที่ 29 กันยายน 2551
- ไอซ์คอนเฟคชันกลิ่นวานิลลาประกบด้วยบิสกิตรสช็อกโกแลต (ไอศกรีมดัดแปลงผสม) (เครื่องหมายการค้า มอ ซอฟท์ คุกกี้ แซนด์วิช) 10-3-08945-1-0095 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2551

5.บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด
- นมขาดมันเนย พาสเจอร์ไรส์ ตราดัชมิลล์ 73-1-17929-1-0179 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551
- นมสดพาสเจอร์ไรส์ ตราดัชมิลล์ 73-1-17929-1-0142 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551
- นมปรุงแต่งพาสเจอร์ไรส์ รสหวาน ตราดัชมิลล์ 73-1-17929-1- 0141 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551
- นมปรุงแต่งพาสเจอร์ไรส์ รสช็อกโกแลต-มอลต์ ตราดัชมิลล์ 73-1-17929-1-0166 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551
- นมปรุงแต่งพาสเจอร์ไรส์ รสกาแฟ ตราดัชมิลล์ 73-1-17929-1- 0014 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551
- นมปรุงแต่งพาสเจอร์ไรส์ รสโกโก้ ตราดัชมิลล์ 73-1-17929-1- 0140 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551
- นมปรุงแต่งพาสเจอร์ไรส์ กลิ่นสตรอเบอรี่ ตราดัชมิลล์ 73-1-17929-1-0012 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551
- นมสดพร่องมันเนย พาสเจอร์ไรส์ รสกาแฟ ตราดัชมิลล์ 73-1-17929-1- 0137 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551
- โยเกิร์ตผสมสตรอเบอร์รี่ (แคลเซี่ยมสูง) ตราดัชชี่ 73-1-17929-1-0018 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551
- โยเกิร์ตผสมน้ำผึ้งและลฃเลมอน (แคลเซี่ยมสูงและมีวิตามิน) ตราดัชชี่ 73-1-17929-1-0167 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551
- โยเกิร์ตผสมวุ้นมะพร้าว (แคลเซี่ยมสูง) ตราดัชชี่ 73-1-17929-1-0019 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551

6.บริษัท ดูเม็กซ์ จำกัด
- นมดัดแปลงสำหรับทารก (ดูเม็กซ์ ไฮคิว เนเชอรัล ชีลด์ เครื่องหมายการค้า) 11-1-02623-1-0101 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551
- นมดัดแปลงสำหรับทารก (ดูแลค เครื่องหมาย การค้า) 11-1-02623-1- 011 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551 หากมีความคืบหน้า อย.จะแจ้งให้ทราบต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

๑/๑๐/๕๑

นมจีน-น้ำผักผลไม้-น้ำสมุนไพร ปนเปื้อนน้ำใบบัวบกร้ายสุด


อย.สั่งอายัดนมผงนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 60 ตัน ส่งตรวจหาสารปนเปื้อน ชี้หากไม่ผ่านต้องส่งกลับต้นทาง-ทำลาย พร้อมเก็บตัวอย่างนม-ผลิตภัณฑ์ผสมนมจากจีน ตรวจ 97 ตัวอย่าง พบปนเปื้อนเมลามีนแค่ 2 ตัวอย่าง รอผลตรวจอีก 63 ตัวอย่าง

ตะลึง "น้ำผักผลไม้-น้ำสมุนไพร" ทั่วกรุงเปื้อนจุลินทรีย์เพียบ "น้ำใบบัวบก" อันตรายสุดเผยในจำนวนนั้นเกิดจากเชื้อโรคที่ติดมากับมือคนตักขาย

เมื่อวันที่ 30 กันยายน นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รมช.สาธารณสุข แถลงว่าขณะนี้ได้ตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์นม ผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบนมผงจากจีน ได้แก่ ขนมปัง แค ร็กเกอร์ (ไส้ครีม) ไอศกรีม เป็นต้น ตั้งแต่วัน ที่ 19 กันยายน จำนวน 97 ตัวอย่าง ผลการตรวจสอบจาก 34 ตัวอย่าง ไม่พบการปน เปื้อนสารเมลามีน 32 ตัวอย่าง ส่วน 2 ตัวอย่างมีการปนเปื้อนเมลามีน ซึ่ง เป็นวัตถุดิบที่นำเข้าจากจีน โดยบริษัทนมยี่ห้อดังแห่งหนึ่ง มีค่าเมลามีน ที่ 0.38 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หรือ 0.38 พีพีเอ็ม และ 0.55 มิลลิกรัมต่อ กิโลกรัม แต่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย ส่วนอีก 63 ตัวอย่าง กำลังรอผล ตรวจวิเคราะห์

ผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ได้หนังสือรับรองจากอย.แล้ว ได้แก่ บริษัท ดีทแฮ ล์ม จำกัด มีผลิตภัณฑ์ 2 ชนิด บริษัท มาร์ส ไทยแลนด์ อิงค์ จำกัด มี ผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรอง 7 ชนิด บริษัท ซีโน-แปซิฟิก เทรดดิ้ง (ไทย แลนด์) จำกัด ได้รับการรับรอง 1 ชนิด และบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรด ดิ้ง จำกัด ได้รับการรับรองไอศกรีม 4 ชนิด

นายวิชาญ เตือนให้ผู้บริโภคเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากและเครื่องหมาย อย.มารับ ประทาน ไม่ควรเสี่ยงซื้อผลิตภัณฑ์ที่ลักลอบนำเข้า เพราะไม่ได้ผ่านการตรวจ สอบจาก อย. อาจมีการปนเปื้อนสารที่เป็นอันตรายได้ ดังนั้น จึงได้ตั้งวอร์ รูมเพื่อติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที และเพื่อสร้างความเข้าใจ ให้แก่ผู้บริโภค อย.ได้นำข้อมูลและคำแนะนำสำหรับผู้บริโภคขึ้นเว็บไซ ต์ www.fda.moph.go.th รวมทั้งรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าจากการประชุมวอร์ รูมขึ้นเว็บไซต์ทุกวัน

นพ.ชาตรีบานชื่น เลขาธิการ อย. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา ได้เรียกประชุมหารือผู้ที่ เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้าม ผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย โดยอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย จะต้องไม่ พบการปนเปื้อนสารเมลามีน และสารในกลุ่มเดียวกัน ได้แก่ กรดไซยานูริก แอมมี ไลน์ แอมมีลีน โดยมีเกณฑ์ในการปฏิบัติเนื่องจากอาจมีการปนเปื้อนตาม ธรรมชาติ จึงกำหนดเกณฑ์ความปลอดภัยอาหารที่มีการปนเปื้อนสารเมลามีนและสารใน กลุ่มเดียวกันไว้ว่า สำหรับนมผงทุกชนิด ต้องไม่เกิน 1 พีพีเอ็ม หรือ 1 ส่วน ใน 1 ล้านส่วน หรือ 1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารที่มีนม หรือองค์ประกอบของนมเป็นส่วนประกอบ ต้องไม่เกิน 2.5 พีพี เอ็ม หรือ 2.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

เลขาธิการอย. ชี้ว่า การนำเข้าอาหารเพื่อจำหน่าย จะต้องมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานของรัฐ ที่รับผิดชอบของประเทศที่เป็นแหล่งผลิต หรือสถาบันเอกชนที่รับรองโดยหน่วย งานของรัฐที่รับรองประเทศที่เป็นแหล่งกำเนิดแล้ว ที่แสดงให้เห็นว่าไม่มีการ ปนเปื้อนสารเมลามีนและสารในกลุ่มเดียวกันเกินเกณฑ์ความปลอดภัยที่กำหนด ซึ่ง ประกาศฉบับนี้หากผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนประกาศฉบับนี้ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 6 เดือน-2 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท ทั้งนี้ จะนำเสนอ รม ว.สาธารณสุข เพื่อลงนามในประกาศก่อนลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะมีผล บังคับใช้ในวันถัดจากไป ก่อนประกาศจะมีผลบังคับใช้ จะใช้ พ.ร.บ.อาหาร พ. ศ. 2522 เกี่ยวกับอาหารที่น่าจะเป็นอันตรายเจือปนอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นอาหาร ไม่บริสุทธิ์ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่น บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ภก.สาทิศตรีสัตยาเวทย์ ผอ.กองงานด่านอาหารและยา กล่าวถึงการนำเข้านมจาก ประเทศจีนของบริษัทนมชื่อดัง ว่า อย.ได้อายัดนมนำเข้าจากจีน ซึ่งบริษัทดัง กล่าวนำเข้านมจากจีนเมื่อประมาณ 3 ปีมาแล้ว เดิมมีการนำเข้าจาก นิวซีแลนด์ แต่เนื่องจากสภาพอากาศแห้งแล้ง นมขาดตลาด จึงได้นำเข้าจาก จีน นอกจากนมผงที่อายัดไว้จำนวน 22 ตันเพื่อรอผลการตรวจวิเคราะห์ซ้ำ แล้ว ขณะนี้ยังมีการอายัดนมผงอีกจำนวน 60 ตัน จาก 4 ลอตที่มีการนำเข้าที่ ท่าเรือ หากผลการตรวจวิเคราะห์ออกมามีความปลอดภัยก็สามารถนำนมผงดังกล่าว เข้ามาเป็นวัตถุดิบในการผลิตได้ แต่ถ้าไม่ผ่านมีการปนเปื้อนเมลามีน จะต้อง ส่งกลับไปยังประเทศต้นทางทันที หากไม่ส่งกลับ อย.จะนำไปทำลายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการแถลงข่าวนพ.ชาตรี ได้สั่งการให้เก็บตัวอย่าง นมผง 60 ตัน ส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ด้วย เพื่อ เป็นการยืนยันผลการตรวจ

ขณะที่อันตรายจากการบริโภคอาหารปนเปื้อนยังขยายเพิ่มอีกน.ส.ทิพย์ วรรณ ปริญญาศิริ ผู้อำนวยการกองควบคุมอาหาร (อย.) กล่าวว่า จากกระแสความใส่ ใจต่อสุขภาพ ทำให้คนไทยหันมาดื่มน้ำผักผลไม้หรือน้ำสมุนไพรกันมากขึ้น แต่ น้ำผลไม้และน้ำสมุนไพรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านความร้อนเพียงเล็กน้อย จึงมีความ เสี่ยงต่อการปนเปื้อนจุลินทรีย์ในทุกช่วงการผลิต โดยเฉพาะหลักการผลิตและการ วางจำหน่ายจะมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์มาก เนื่องจากไม่มีกระบวนการฆ่าเชื้อ ดังนั้น อย.จึงได้ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการปน เปื้อนจุลินทรีย์ในเครื่องดื่มสมุนไพร โดยศึกษาการปนเปื้อนจุลินทรีย์ใน เครื่องดื่มสมุนไพรในภาชนะที่บรรจุปิดสนิทและพร้อมบริโภคที่จำหน่ายใน เขต กทม. 50 เขต

ทั้งนี้น้ำผักผลไม้และน้ำสมุนไพรที่ได้เก็บตัวอย่าง สำรวจ 455 ตัวอย่าง ได้แก่ น้ำใบบัวบก น้ำสำรอง น้ำเฉาก๊วย น้ำบีทูรท น้ำ กระเจี๊ยบ น้ำเสาวรส น้ำเก๊กฮวย และน้ำจับเลี้ยง ทั้งในแบบภาชนะ บรรจุปิดสนิทและตักขาย ผลตรวจวิเคราะห์พบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์สูงมาก ถึง 316 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 69.45 โดยแบบบรรจุภัณฑ์ปิดสนิท พบปนเปื้อน จุลินทรีย์มากที่สุดในน้ำใบบัวบกที่พบการปนเปื้อนสูงถึงร้อยละ 97.83 รองมา คือน้ำจับเลี้ยงร้อยละ 90 น้ำเสาวรสร้อยละ 87.88 น้ำบีทรูทร้อยละ 84.61 น้ำ เฉาก๊วยร้อยละ 67.35 น้ำสำรองร้อยละ 62.50 น้ำกระเจี๊ยบร้อยละ 55.36 และน้ำ เก๊กฮวยร้อยละ 54.69

ส่วนผลการตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนในน้ำผักผลไม้และน้ำสมุนไพรชนิดตักขายพบ ว่าน้ำสำรองมีการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ร้อยละ 100 รองลงมาคือน้ำใบบัว บกร้อยละ 85.71 น้ำเฉาก๊วยร้อยละ 78.51 น้ำเก๊กฮวยร้อยละ 71.05 น้ำ กระเจี๊ยบร้อยละ 50 และน้ำจับเลี้ยงร้อยละ 46.15 ส่วนน้ำเสาวรสจากตัวอย่าง ไม่พบการปนเปื้อนเลย โดยลักษณะการวางจำหน่ายที่มีใช้ถุงพลาสติกบรรจุน้ำแข็ง มัดปากถุงวางลงในโหลเพื่อรอตักขาย พบการปนเปื้อนถึงร้อยละ 77.41 ขณะที่น้ำ สมุนไพรที่วางจำหน่ายแบบไม่แช่เย็นจะพบการปนเปื้อนเพียงร้อยละ 45.41

นอกจากนี้การปนเปื้อนที่พบดังกล่าว ยังเกิดจากมือของผู้จำหน่ายร้อย ละ 65.22 รองมาเป็นภาชนะและอุปกรณ์ร้อยละ 31.25 สำหรับเชื้อจุลินทรีย์ปน เปื้อนที่พบ ได้แก่ ยีสต์, คอลิฟอร์ม, โมลด์, อีโคไล และสเตปฟิโลคอคคัส ออ เรียส บ่งบอกว่ามีการปนเปื้อนอุจจาระ และอาจก่อให้เกิดภาวะท้องร่วงได้
ทั้ง นี้ผลการสำรวจนี้ ชี้ว่าในการจำหน่ายน้ำผักผลไม้และน้ำสมุนไพร ควรมีการ พัฒนารูปแบบสำหรับการวางจำหน่ายเพื่อให้ผู้บริโภคปลอดภัยจากเชื้อ จุลินทรีย์ โดย อย.จะทำการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

น.ส.ทิพย์วรรณ กล่าวต่อว่า จากผลการสำรวจดังกล่าว ชี้ชัดว่าผู้จำหน่ายส่วนใหญ่ขาดองค์ความ รู้ ทำให้เกิดการปนเปื้อน ซึ่งการทำน้ำผักผลไม้และเครื่องดื่มสมุนไพรดัง กล่าวส่วนใหญ่เป็นการขายตรงผลิตหน้าร้าน ไม่ต้องขออนุญาต แต่ยังต้องคงใน เรื่องความปลอดภัย โดยการปนเปื้อนที่พบชี้ว่า การผลิตยังขาด สุขลักษณะที่ดี เชื้อเหล่านั้นทำให้อาหารเน่าเสียง่าย และอาจก่อให้เกิด ปัญหาท้องเสีย แต่ไม่ก่อความรุนแรง เชื้อยีสต์ และโมลด์มาจากอากาศทั่ว ไป ส่วนคอลิฟอร์มชี้ว่าไม่ถูกสุขลักษณะ อย่างไรก็ตาม อย.กำลังดำเนินการ แก้ไขปัญหา ในปีหน้าจะมีโครงการพัฒนาการจำหน่ายและผลิตน้ำผักผลไม้และน้ำ สมุนไพร เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยจะนำ ร่องในบางพื้นที่ของ กทม. ซึ่งจะมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ พร้อมทั้งจัดทำคู่ มือเพื่อให้ผู้ผลิตปฏิบัติตาม ส่วนที่พบว่าน้ำใบบัวบกมีการปนเปื้อนมากที่ สุด เนื่องจากเป็นพืชที่อยู่ใต้น้ำ ผู้ผลิตล้างไม่สะอาดเพียงพอจึงเกิดปัญหา

ขอขอบคุณข่าวจาก

ข่าวรณรงค์

ช่วยกันลดมลพิษคนละนิด ลดการใช้โฟมและถุงพลาสติก ปิดเครื่องไฟฟ้าหลังใช้งานทุกครั้ง

ความคิดเห็นล่าสุด