ฟังรายการสถานีวิทยุศึกษา FM 92 MHz.



ครอบครัวข่าวสาร





มาร่วมคุยกันดีกว่า

๒๓/๗/๕๑

"เสพติดมือถือ" โรคใหม่สังคมไฮเทค

ปัจจุบัน "โทรศัพท์มือถือ" เข้ามามีบทบาทในชีวิตผู้คนในสังคมทุกระดับ ด้วยประ โยชน์ทางการสื่อสาร จนบางครั้งผู้ใช้เกิดอาการเสพติดโดยไม่รู้ตัว อยากทราบว่าตัวเราเข้าข่ายถอนตัวไม่ขึ้นจากเทคโนโลยีนี้หรือไม่ เชิญตรวจสอบจากแบบสอบถามข้างล่างโดยพลัน!

1. นับเลขหมาย
ให้ลองตรวจสอบดูว่า ในมือถือมีบันทึกหมาย เลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล์ ที่อยู่เว็บไซต์ เอาไว้มากขนาดไหน ถ้ามากจนนับไม่ไหว ให้ประเมินออกมา แล้วบวกคะแนนให้แต่ละรายชื่อ ชื่อละ 1 คะแนน


2. ความเร็วรับสาย
มนุษย์ "เสพติดมือถือ" ยากนักจะปล่อยให้สายหลุดโอนเข้า "วอยซ์เมล์" ถ้าวันนี้ไม่มีข้อความฝากไว้ในระบบวอยซ์เมล์เลย ให้คะแนนเต็ม 10 ถ้ามี 1 ข้อความลดลงมาเหลือ 9 ถ้ามีมากกว่านั้นก็ลดคะแนนลงมาตามลำดับ


3. เอสเอ็มเอส
นับจำนวน "เอสเอ็มเอส" ในแต่ละวันโดยประมาณ จากนั้นเอาตัวเลขที่ได้มาตั้งรอไว้ เช่น ถ้าคิดว่าส่งเอสเอ็มเอสเฉลี่ยวันละ 10 ข้อความ คะแนนที่ได้คือ 10

4. เจ็บเท่าไหร่ก็โทร..!
ถ้าเคยใช้โทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะกดแป้นตัวเลข กดแป้นตัวอักษร หรือถือโทรศัพท์นาน จนรู้สึกเจ็บนิ้ว-เจ็บมือ-เจ็บข้อมือ ให้บวกคะแนนเข้าไป 50 แต้ม

5. หูแว่ว
ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณเคยเกิดอาการ "หูแว่ว" นึกว่าตัวเองได้ยินเสียงเรียกเข้ามือถือกี่ครั้ง บวกคะแนนเข้าไปอีกครั้งละ 10 แต้ม

6. ฮัลโหล-โทร.แล้วขับ
แน่นอนว่าพฤติกรรมคุยมือถือขณะขับรถยนต์นั้นไม่ดีและไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เคยคุยมือถือตอนขับรถกี่ครั้ง บวกเข้าไปครั้งละ 5 แต้ม

7. โทร.ทุกที่ไม่มีเบื่อ
ตลอดทั้งอาทิตย์คุณเคยคุยมือถือใน "ที่สาธารณะ" กี่ครั้ง ให้คะแนนเพิ่มไปครั้งละ 10 แต้ม

8. อวัยวะที่ 33
มนุษย์เกิดมามีอวัยวะครบ 32 นับเป็นบุญอันประเสริฐหาใดเปรียบ แต่คนยุคนี้ดูเหมือนจะมี "อวัยวะที่ 33" งอกติดตัวขึ้นมาก็คือ "มือถือ" นั่นเอง ถ้าเจ้าอุปกรณ์สื่อสารชิ้นนี้ตามติดตัวไปทุกที่ ไม่ว่ายามนอน ยามปลดทุกข์ ยามทำเรื่องส่วนตัว บวกอีกอย่างละ 20 คะแนน ถ้าเคยหยุดร่วมรักเพื่อไปรับโทรศัพท์ เพิ่มไปเลย 50 คะแนน!

9. กลั้นหายใจไม่รู้ตัว
ลองทวนความจำหรือสังเกตตัวเองดูว่า เวลากดส่งเอสเอ็มเอสหรือเขียนอีเมล์บนมือถือแล้วเอาจริงเอาจังจนกลั้นหายใจไม่รู้ตัวหรือไม่ ถ้าเป็นเพิ่ม 20 แต้ม

10. เจ้าพ่อฟังก์ชั่น
ถ้าติดชอบเล่นสารพัดฟังก์ชั่นในมือถือบ่อยๆ ทั้งกล้อง โปรแกรมฟังเพลง ดูคลิป ดูแผนที่ ฯลฯ ให้อย่างละ 5 แต้ม

รวมผลลัพธ์ : ต่ำกว่า 100 คะแนน แปลว่า คุณไม่เสพติดมือถือ ใช้ตามปกติทั่วไปในชีวิตประจำวันเท่านั้น, 101-300 คุณมีอาการเสพติดอ่อนๆ แต่ยังรู้จักใช้มือถืออย่างเท่าทัน และยังไม่ถึงกับตัดขาดจากสังคมจริงๆ, 301-600 คุณเสพติดมือถือใกล้ถึงจุดสูงสุด และยุ่งวุ่นวายกับมันทั้งวันจนแทบถอนตัวไม่ขึ้น, 601 คะแนนขึ้นไป คุณเสพติดมือถือจริงแท้แน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ หรือว่าไม่จริง!?
ทางแก้ : กลับมานั่งพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่า คุณจำเป็นต้องเสพติดมือถือขนาดนั้นหรือไม่ สามารถลบเบอร์หรือเลิกพฤติกรรมที่ไม่จำเป็นลงไปบ้างได้ไหม ทำอย่างไรคุณถึงจะเป็นผู้ควบคุมมือถือ ไม่ใช่ปล่อยให้มือถือมาควบคุมคุณ!

ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.yenya4.com

ชวนน้อง "โชว์กึ๋น" ทำหนังสั้นแบบ "ครอบครัว"



เพราะปัจจุบันโลกของการติดต่อสื่อสารได้เปลี่ยนไปมาก คนเริ่มหันมาดูทีวีผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือแม้แต่การสนทนากันโดยสามารถมองเห็นหน้าคู่สนทนา ซึ่งนับว่าเป็นความเติบโตของโลกเทคโนโลยีอย่างแท้จริง บริษัท นิวเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่สัญชาติไทย จึงจัดโครงการ เปญ “เวลคอม ช็อต ฟิล์ม เฟสติวัล 2008 "Wellcom Short Film Festival 2008” หัวข้อ เดอะ แฟมิลี่ (The Family) เพื่อสนับสนุนกลุ่มนิสิต-นักศึกษา ให้มีสถานที่ในการแสดงผลงาน ซึ่งเป็นการคืนกำไรให้สังคม พร้อมยังเห็นไอเดียใหม่ๆ ของคนรุ่นใหม่ โดย ปรีชาพล พึ่งพิบูลย์ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า “ถือว่าเป็นแคมเปญที่สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ เนื่องจากโทรศัพท์เวลคอมสามารถดู ที.วี. ได้ เราจึงอยากให้มีคอนเทนท์ใหม่ๆ บนโลกของโทรศัพท์มือถือ และช่วยส่งเสริมให้หนังสั้นให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มคนได้กว้างมากขึ้น”


ทางด้าน ศิโรตม์ ตุลสุข กรรมการผู้จัดการ Thaishortfilm บอกว่า ปัจจุบันคนให้ความสนใจหนังสั้นมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับ 10 ปี ที่ผ่านมา โดยเมื่อก่อนคนทั่วไป ที่ไม่ได้เรียนเรื่องการทำหนัง ก็จะไม่ทราบว่าทำอย่างไร แต่ปัจจุบันนี้คนที่ไม่ได้เรียนก็สามารถที่จะถ่ายทอดความคิดผ่านหนังสั้นออกมาได้ หนำซ้ำอุปกรณ์ในการถ่ายทำหาได้ง่ายขึ้น ราคาก็ถูก และเทคโนโลยีในปัจจุบันก็อำนวยความสะดวกได้ยิ่งขึ้น ผู้ผลิตอาจไม่ต้องมีห้องสำหรับไว้ตัดต่อ เพียงแค่ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยก็สามารถผลิตเองได้


“ตอนนี้เรามีหนังสั้นที่ผลิตโดยคนไทยไปโชว์ศักยภาพบนเวทีดังระดับนานาชาติอยู่มากมาย โดยปัจจุบันได้เริ่มสร้างชื่อเสียงในหลายๆ ประเทศ และผลงานหนังสั้นฝีมือคนไทยหลายๆ เรื่องยังสามารถขายต่างประเทศ ในราคาหลักแสน” ศิโรตม์กล่าว
ส่วน ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องชัตเตอร์ แฝด สี่แพร่ง กล่าวเสริมว่าหนังสั้นเป็นที่รู้จักของคนไทยมาเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว นิสิต-นักศึกษาในสมัยก่อนรู้จักหนังสั้นจากรุ่นพี่ที่ทิ้งผลงานไว้ให้ดู โดยแนวคิดในการทำนั้น จะมีความแตกต่างกัน เพราะหนังสั้นแต่ละเรื่องมาจากไอเดียของแต่ละคน คือไม่มีการถูกจำกัดทางความคิด ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนสนใจหนังสั้นมากขึ้นเรื่อยๆ


“ข้อดีของการเข้าร่วมประกวดในเวทีต่างๆ จะมีสองส่วนคือ ทำให้คนที่ลังเลและยังไม่กล้า เกิดความกล้าที่จะลงมือทำ เพราะผู้ทำมีเป้าหมายเพื่อส่งหนังสั้นประกวด อีกส่วนหนึ่งคือ คนที่ทำหนังสั้นอยู่แล้ว มีกำลังใจมากขึ้นในการทำงาน เพราะเมื่อเขาทำงานได้ดี ได้รางวัล เขาก็จะมีชื่อเสียง ทำให้ไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจ คือขอสปอนเซอร์ได้ง่ายขึ้น สมัครงานได้ง่ายขึ้นนั่นเอง” ภาคภูมิ กล่าว หันมาทาง เสรีย์ หล้าชนบท นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต หนึ่งในผู้สมัครโครงการ “เวลคอม ช็อต ฟิล์มฯ" ในครั้งนี้ เล่าให้ฟังว่า การส่งผลงานเข้าประกวดหนังสั้นเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา และส่งประกวดมาหลายเวทีแล้ว โดยแต่ละเวทีต้องดูหัวข้อก่อน ว่าตรงกับความสนใจหรือไม่ จากนั้นจะนำความรู้สึกเข้าไปเป็นรวมกับหัวข้อการประกวดนั้นๆ เพื่อให้เกิดไอเดียในการผลิต
“สำหรับการประกวดหนังสั้นแบบนี้ มันเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันบุคคลากร คนรุ่นใหม่ ให้แสดงความสามารถ เพื่อก้าวเข้าสู่วงการหนังสั้นได้เป็นอย่างดี ขอขอบคุณภาคเอกชนที่ใจดี เป็นผู้สนับสนุนด้วยครับ” เสรีย์กล่าวทิ้งท้าย


สำหรับกิจกรรม “Wellcom Short Film Festival 2008” นิสิตนักศึกษาสามารถสมัครและส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2551 ใน 2 ช่องทาง คือ http://www.wellcommobile.com/ และ 02 641 5159 - 60 โดยผลงานที่ส่งประกวด ต้องแสดงความรู้สึก และถ่ายทอดมุมมองที่มีต่อครอบครัวตนเอง ไม่ว่าจะเป็นมุมมองที่มีความสุขสนุกสนานหรือมุมมองของครอบครัวที่มีปัญหาโดยผ่านการสื่อสารผ่านในรูปแบบของภาพยนตร์สั้น โดยไม่จำกัดเทคนิคในการนำเสนอ สำหรับการคัดเลือก จะมีกรรมการ 5 ท่าน ได้แก่ ศิโรตม์ ตุลสุช "ย้ง" ทรงยศ สุขมากอนันต์ ผู้กำกับแฟนฉัน-ปิดเทอมใหญ่ "โอ๋" ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ผู้กำกับฯ ปรีชาพล พึ่งพิบูลย์ สมชาย รวมก้อนทอง ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ร่วมตัดสิน รางวัลชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 70,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้รับ 30,000 บาท โดยทุกรางวัลจะได้รับมือถือ Wellcom พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ และผลงานที่ผ่านเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้าย จะถูกนำไปแสดงที่เวบไซต์ข้างต้น ทั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้คนเข้าไปชม พร้อมให้คะแนนเพื่อหารางวัล "ปอปปูล่าร์โหวต" และรับรางวัล 30,000 บาท โทรศัพท์มือถือ และใบประกาศเกียรติคุณ คนที่ชื่นชอบหนังสั้นเรื่องนั้นๆ ก็สามารถดาว์นโหลดมาดูในมือถือได้อีกทางหนึ่งด้วย

ขอขอบคุณข่าวจาก

๑๓/๗/๕๑

คนไทยกินแล้วนั่งนอน อ้วนสูงเป็นอันดับ 5 ในเอเชีย

นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าววานนี้ (12 ก.ค.) ว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้รายงานผลการสำรวจในปี 2550 ในกลุ่มประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 11 ปีขึ้นไป ซึ่งมีทั้งหมด 55 ล้านคน พบว่าในจำนวนนี้ออกกำลังกายร้อยละ 30 หรือประมาณ 16 ล้านกว่าคน เพิ่มขึ้นจากปี 2547 เล็กน้อย ที่เหลืออีก 38 ล้านกว่าคน ไม่ได้ออกกำลังกาย

นายวิชาญ กล่าวว่า ผลของการที่ประชาชนไทยใช้ชีวิตกินแล้วนั่งหรือนอน ไม่ได้ออกกำลังกายใดๆ ทำให้เกิดปัญหาอ้วน น้ำหนักเกินมาตรฐาน ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 10 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบในกลุ่ม 14 ประเทศเอเชียแปซิฟิก พบว่ามากเป็นอันดับ 5 รองจากออสเตรเลีย มองโกเลีย วานูอาตู และฮ่องกง ซึ่งปัจจุบัน วงการแพทย์ทั่วโลก วิจัยยืนยันตรงกันว่า ความอ้วน มีผลเสีย ทำให้เกิดโรคตามมาไม่ต่ำกว่า 8 โรค

"ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายจะรณรงค์การออกกำลังกายครั้งใหญ่ทั่วประเทศและปลูกฝังให้ติดเป็นนิสัย เนื่องจากมีข้อพิสูจน์ชัดเจนว่า การออกกำลังกายสามารถลดการป่วยลงได้ เป็นวัคซีนขนานเอกที่ทุกคนสามารถสร้างได้เองไม่ต้องฉีดหรือกินยา โดยกรมอนามัยร่วมกับเอแบคโพลล์ ได้รายงานผลการศึกษาความสัมพันธ์ของการการออกกำลังกายกับการเจ็บป่วยในปี 2550 พบว่าในกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไปที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย มีอาการป่วยและต้องนอนรักษาในโรงพยาบาล ในรอบปีที่ผ่านมามากกว่ากลุ่มที่ออกกำลังกายพอเพียงถึงร้อยละ 10" รมช.สธ. กล่าว

นอกจากนั้นผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกายยังมีโรคประจำตัว และความดันสูงมากกว่าผู้ที่ออกกำลังกายพอเพียงถึงเกือบร้อยละ 50 และ 20 ตามลำดับ และหากออกกำลังกาย ติดต่อกันนานหลายเดือนจะยิ่งทำให้สุขภาพแข็งแรง ป่วยน้อยกว่าผู้ที่ออกกำลังกายน้อยกว่า ในการรณรงค์ มีแผนจะให้ทุกหมู่บ้านตั้งเป็นชมรมออกกำลังกายสร้างสุขภาพ ตามกลุ่มอายุ ทั้งผู้ที่ยังไม่ป่วยและผู้ที่ป่วยแล้ว จะเริ่มตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป

ขอขอบคุณข่าวจาก

๗/๗/๕๑

ดญ."4ขวบ"พลเมืองดี เจอ4หมื่น ส่งคืนเจ้าของเงิน


ด.ญ.4 ขวบพลเมืองดี เก็บกระเป๋าตังค์ได้ในห้องน้ำห้างดังย่านเมืองนนท์ พบเงินสดเกือบครึ่งหมื่นลอตเตอรี่อีกหลายคู่ น้าสาวพาขึ้นโรงพักแจ้งตร.ส่งคืนเจ้าของทันควัน สาวใหญ่วัย 52 กระเป๋ารถเมล์เจ้าของเงิน เผยเพิ่งกู้แบงก์มาสดๆ ร้อนๆ ตอนแรกทำใจแล้วว่าชวดแน่ สุดดีใจได้คืนครบทุกบาททุกสตางค์


เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 6 ก.ค. ขณะที่ร.ต.ท. ณฐกร นบนอบ ร้อยเวรสภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มีน.ส.กาญจนา ทองสุข อายุ 30 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง พักอยู่ในหมู่บ้านเดอะเทอเรสต์ ซ.ติวานนท์ 3 ต.ตลาดขวัญ อุ้มด.ญ.ธนภรณ์ หรือน้องเบนซ์ ปานวัด อายุ 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนราชินีบน ย่านสามเสน กทม. ซึ่งเป็นหลานสาว เข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมมอบกระเป๋าสตางค์สีเหลือง ให้เป็นหลักฐานโดยระบุว่า เก็บได้จากห้องน้ำห้างบิ๊กซี สาขาติวานนท์ ให้ช่วยติดตามหาเจ้าของด้วย

ตรวจสอบภายในมีเงินสดเป็นธนบัตรชนิด 1,000, 500 และ 100 บาท รวม 40,500 บาท รวมทั้งสลากกินแบ่งรัฐบาลอีก 8 คู่ เป็นเลขท้าย 498 จำนวน 5 คู่ 360 จำนวน 3 คู่ พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของนางละเมียด บุญเพ็ชร อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 4 ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

น.ส.กาญจนา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนและหลานสาวมาเดินเที่ยวห้างบิ๊กซี สาขาติวานนท์ ระหว่างนั้นหลานสาวเกิดปวดท้องจึงบอกให้ตนพาเข้าห้องน้ำของห้างที่ชั้น 2 ฝั่งด้านหลังลิฟต์ จึงเปิดประตูแล้วให้หลานสาวเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ สักครู่ใหญ่หลังเสร็จกิจหลานสาวถือกระเป๋าใบหนึ่งออกมาจากห้องน้ำโดยบอกเจอวางอยู่บนชักโครกภายในห้องน้ำ เมื่อเปิดดูพบว่ามีเงินสดอยู่ภายในจำนวนมากจึงอุ้มหลานสาวมาแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อหาตัวเจ้าของเงิน เพราะคิดว่าอาจจะเดือดร้อนจากการที่ทำเงินหายในครั้งนี้ก็เป็นได้

หลังสอบปากคำเสร็จแล้ว ร.ต.ท.ณฐกรพยายามติดต่อไปยังที่อยู่ตามที่พบในบัตรประชาชน รวมทั้งขอหมายเลขโทรศัพท์เบอร์ติดต่อจากทางองค์การโทรศัพท์ฯ แต่ไม่พบว่ามีการแจ้งหมายเลขในทะเบียนบ้านดังกล่าวจึงยังไม่สามารถติดต่อได้ ต่อมานางละเมียด เดินทางเข้าพบร.ต.ท.ณฐกร เพื่อติดต่อขอรับเงินจำนวนดังกล่าวคืน เจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อน.ส.กาญจนากลับมาที่โรงพัก

นางละเมียด กล่าวว่า เป็นกระเป๋ารถขสมก.สาย 114 วิ่งระหว่างนนทบุรี-ลำลูกกา แต่วันนี้เป็นเวรหยุดไม่ได้ไปทำงาน ช่วงเย็นได้ไปเดินซื้อของที่ห้างแต่เกิดปวดท้องจึงเข้าห้องน้ำพร้อมเพื่อนบ้านที่มาด้วย ระหว่างอยู่ในห้องน้ำหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกางเกงวางไว้ที่หลังถังชักโครก พอทำธุระเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำทันที โดยไม่ได้หยิบเอากระเป๋า สตางค์ออกมาด้วย จนกระทั่งตนมาคลำหาแต่ไม่พบ ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งมาที่ห้องน้ำแต่ไม่เจอกระเป๋าแล้ว เมื่อตนไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ก็ได้รับคำตอบว่าคงจะไม่ได้คืน เพราะมีคนเข้าห้องน้ำเยอะมาก

"ตอนนั้นหมดหวังที่จะได้เงินคืนแล้ว จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่โรงพัก สภ.เมืองนนทบุรี สาขาท่าน้ำ เพื่อที่จะนำหลักฐานไปขอทำบัตรธนาคารไม่ ส่วนเงินดังกล่าวกู้มาจากธนาคาร เพื่อที่จะนำไปใช้หนี้ที่หยิบยืมมาปลูกบ้าน และยังนั่งคิดอยู่ว่าจะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ ถึงกับกินข้าวไม่ลง พอมีเพื่อนที่ทำงานอยู่รถโทร.มาบอกว่ามีคนเก็บเงินได้ส่งคืนเจ้าหน้าที่ตำรวจตนจึงได้รีบเดินทางมาขอรับเงินคืนด้วยความดีใจ เพราะไม่คิดว่าจะได้เงินคืนแล้ว" นางละเมียด กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังได้รับเงินคืน นางละเมียดพยายามให้เงินเป็นสินน้ำใจแก่น้องเบนซ์ แต่น.ส.กาญจนาซึ่งเป็นน้าไม่ขอรับ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน

ขอขอบคุณข่าวดีๆ จาก

ข่าวรณรงค์

ช่วยกันลดมลพิษคนละนิด ลดการใช้โฟมและถุงพลาสติก ปิดเครื่องไฟฟ้าหลังใช้งานทุกครั้ง

ความคิดเห็นล่าสุด