ฟังรายการสถานีวิทยุศึกษา FM 92 MHz.



ครอบครัวข่าวสาร





มาร่วมคุยกันดีกว่า

๑๗/๙/๕๐

คุณแหลม ชาวนาชีวิตพอเพียง

คุณแหลม พูลศักดิ์ สมบูรณ์ ชาวนาชีวิตพอเพียง


คุณแหลมเป็นชาวอำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ซึ่งจัดว่าเป็นจังหวัดแห้งแล้งจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย ปัจจุบัน คุณแหลมใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวงมากว่าปีที่ 11 แล้ว ชีวิตก่อนหน้าที่เป็นทหารนั้น ไม่อยากทำนา เพราะเนื่องจากคิดว่าต้องลำบาก ตากแดด ไม่ร่ำรวยเหมือนอาชีพอื่น และคิดจะเข้ากรุงเทพฯ เหมือนชาวชนบทอื่นๆ แต่จริงแล้วชีวิตชาวนาก็มีความสุขกับชีวิต คุณแหลมได้เป็นทุกอย่างอย่างที่ต้องการ เช่น เป็นประมง จากการเลี้ยงกบ เลี้ยงปลา เป็นปศุสัตว์และเป็นสัตวแพทย์จากการเลี้ยงวัว-ควาย เป็นพัฒนาที่ดินจากความสามารถปรับปรุงสภาพดินได้เอง ซึ่งในไร่นาของคุณแหลมไม่ใช้ปุ๋ยและฮอร์โมนทางเคมีเลย ปุ๋ยบำรุงดินจะใช้แต่ใบไม้ ฟาง ขี้วัว-ควาย และปุ๋ยหมักเป็นหลัก โดยเฉพาะการใช้พืชตระกูลถั่ว

คุณแหลมมีภรรยาและครอบครัวแล้วโดย มีลูกชาย 2 คน โดยคนโตอยู่ชั้น ม.3 ส่วนคนเล็กอยู่ชั้น ป.5 คุณแหลมไม่บังคับให้ลูกเป็นชาวนา แต่เพราะคุณแหลมนั้นศรัทธาในวิถีชีวิตชาวนา ซึ่งสามารถดูแลตัวเองได้ ทำให้ลูกทั้งสองตั้งใจที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของคุณพ่อต่อไป คุณแหลมให้เหตุผลว่าอาจจะด้วยการเห็นด้วยตาทุกวันว่าพ่อไม่ได้เป็นลูกน้องใคร อยากทำก็ทำ อยากพักก็สามารถหยุดพักได้ และการที่คุณแหลมเป็นชาวนั้นก็เพราะเลือกที่จะเป็น และเป็นอย่างภาคภูมิใจ

จากก่อนหน้านี้ที่คุณแหลมเคยเข้ามามีชีวิตอยู่ในเมืองระยะหนึ่งก็ทำให้สั่งสมประสบการณ์ไปพอสมควร เช่น ไปทำงานก่อสร้างก็ได้ความรู้ด้านการก่อสร้าง ไปรับราชการทหารก็เอาการฝึกมาใช้ฝึกคนในชีวิตจริง ไปเป็นช่างก็เหมือนก็ได้เป็นวิชาชีพนั้นมาใช้ แต่โดยลึกๆ แล้วคุณแหลมมองว่าการทำงานเหล่านั้นอาจจะได้เงินจริงแต่ก็ไม่มีความสุข ทุกๆวันชาวกรุงต้องซื้อยาพิษรับประทาน ชีวิตในเมืองการทำอะไรก็เสียเงินทั้งหมด โดยคุณแหลมเองก็มองด้วยความเห็นใจ

การทำไร่นาสวนผสมหลังจากทำวิถีชีวิตพอเพียง ชีวิตคุณแหลมก็ดีขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกว่าได้ทุกอย่างในชีวิต ทั้งความรู้ ประสบการณ์ และปัญญาแข็งแรงขึ้น ได้ทดลองศึกษาด้วยตัวเอง คุณแหลมจะโกรธมากถ้ามีใครมาดูถูกในภูมิปัญญาของตัวเอง จากความคิดในช่วง 3 ปีแรกที่อาจจะท้อบ้าง สิ่งที่เลี้ยง ที่ปลูกมานั้นแค่เพียงพอหรับบริโภคในครัวเรือน แต่หลังจากมีความรู้มากขึ้น มีประสบการณ์แข็งแรงขึ้น ในปีที่ 4 จึงจะมีรายได้ ได้เงินเข้ามาจุนเจือครอบครัว ก็ทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น และหลังจากปีที่ 6 และ7 ก็เริ่มมีฐานะดีขึ้น และยังบอกต่อไปว่าในปีที่ 10 นั้นรายได้จะใช้อย่างไรก็ไม่หมด คุณแหลมจึงสรุปให้ว่าอาชีพนี้ไม่ใช่อาชีพที่เสี่ยง ไม่ต้องคิดว่าลงทุนมากมายหรือจะได้กำไรมหาศาล การไม่มีรายได้ก็ถือว่าเราได้ความรู้กลับมา ปัจจุบันชีวิตของคุณแหลม แทบจะไม่ได้ใช้เงินเลย เนื่องด้วย อยากกินอะไรก็สามารถหารับประทานได้ในไร่นาของตัวเอง ตัวอย่างเช่น วันนี้มีต้มปลานิล ก็ได้จากปลา, ผักตะไคร้และผักเครื่องปรุงอื่นๆ จากที่เลี้ยงและปลูกด้วยตัวเอง

ชีวิตครอบครัวในช่วงแรกที่คุณแหลมใช้ชีวิตแบบพอเพียง คุณแหลมต้องรับผิดชอบครอบครัวและทำงานอยู่ลำพัง แต่เมื่อเริ่มท้อจึงได้ให้ลูกและภรรยาไปลองศึกษาบ้างเพื่อให้เข้าใจ ให้กลับมาช่วยงานได้มากขึ้น แรกๆ ภรรยาแทบจะไม่เชื่อวิถีชีวิตอินทรีย์แบบนี้เลย แต่ในภายหลังก็ไปได้ดีขึ้น ภรรยาก็ทำงานร่วมกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ซึ่งลุงแหลมจะทำตัวให้เป็นตัวอย่าง โดยเป็นคนประหยัด ถ้าไม่มีรองเท้าก็สามารถเดินเท้าเปล่าได้ ถ้าเสื้อขาดก็สามารถซ่อมเองได้


คุณแหลมจะให้ความสำคัญด้านอาหาร กินอาหารที่ปลอดภัย มีอาหารดีๆ บริโภค ไม่อยากได้บ้านหลังใหญ่ๆ สวยๆ หรือรถราคาแพง แต่อยากอยู่ห่างจากโลกที่วุ่นวาย เพราะคิดว่าที่นี่คือความสุข ของใช้เครื่องเรือนต่างๆ ที่บ้านคุณแหลมส่วนมากจะเป็นของที่ผู้อื่นบริจาคมา ไม่ได้ซื้อเอง เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์ โดยส่วนมากคุณแหลมจะฟังวิทยุ เพราะข่าวและละครส่วนมากจะมีแต่สื่อที่มอมเมาประชาชน เมื่อดูแล้วก็จะเกิดกิเลสอีกด้วย คุณแหลมยอมรับว่าคงปฏิเสธเทคโนโลยีและของใหม่ๆ ไม่ได้ แต่ต้องรู้จักใช้ และอย่าลืมสิ่งของที่ใช้มาแต่ครั้งดั้งเดิม การมีความสุขกับสิ่งเรียบง่ายนั้นเป็นวิถีชีวิตของบรรพบุรุษ เนื่องจากปู่ย่าตายายสอนมาแบบนี้ ไม่ได้ให้เงินเป็นตัวนำของชีวิต ซึ่งคุณแหลมเองก็พยายามสั่งสอนลูกทุกอย่าง เช่น สอนให้ใช้เงินได้แต่ใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ซื้อของที่เหนือกำลังของตัวเอง บางครั้งคุณแหลมก็ให้ลูกทำงานแลกเปลี่ยน เช่น ปลูกข่า มะละกอ ขุดดิน และสิ่งที่คนอื่นน่าจะเอาเป็นเยี่ยงอย่างก็คือการทำโทษลูกๆ ที่จะให้ลูกทำงานแทน เช่น ขุดหลุมปลูกต้นข่า ซึ่งจะทำให้ลูกแข็งแรงและคุณแหลมเองก็ได้งานอีกด้วย

ตารางชีวิตคุณแหลมมักจะนอนดึก แต่ก็ต้องตื่นมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อรับเงินที่มาหาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางด้วยการจับกบเขียดไปขาย จากนั้นสายๆ จึงเปลี่ยนน้ำบ่อปลา ปลูกต้นไม้ ทำนา ซึ่งในช่วงเวลานี้ของปีก็มีงานที่หนักพอสมควร ในช่วงแรกคุณแหลมมี 16 ไร่ แต่ตอนนี้มีอยู่ถึง 44 ไร่ แรงงานหลักก็คือคนในครัวเรือน นอกเหนือจากนั้นก็จะมีเด็กๆ จากเพื่อนๆ มาฝึกงานอยู่เสมอ โดยคุณแหลมก็จะสอนวิชาเพาะเห็ด เพาะพันธุ์ปลา และ ซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งความตั้งใจก็เพื่อที่จะถ่ายทอดความรู้ทั้งหมดให้กับเด็กรุ่นใหม่ๆ

สิ่งที่คุณแหลมอยากฝากให้กับคนเมืองก็คือการใช้ชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อย่าทำงานเกินกำลังตัวเอง อย่าคิดจะรวยเร็วจนปิดบังปัญญาของตัวเอง แต่อยากให้ดูกำลังและภูมิปัญญาของตัวเองเป็นหลักในเบื้องต้นก่อน ก่อนจะทิ้งท้ายไว้ว่า “จนเงินได้แต่ห้ามจนปัญญา”

ไม่มีความคิดเห็น:

ข่าวรณรงค์

ช่วยกันลดมลพิษคนละนิด ลดการใช้โฟมและถุงพลาสติก ปิดเครื่องไฟฟ้าหลังใช้งานทุกครั้ง

ความคิดเห็นล่าสุด